ข่าวร้ายสำหรับแฟนๆ เจ้าชายทีปังกร และ ศรีรัศมิ์ สุวดี

คนค่อนครึ่งประเทศอาจจะไม่เคยเห็นใบสูติบัตรของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าทีบังกรรัศมีโชติวันที่29เมษายน2563ันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าทีบังกรรัศมีโชติมหาวชิโรตตมางกูรสิริวิบูลยราชกุมารพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปรเมนรามาธิบดีศรีสุนทรมหาวชิราลงกรณ์พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตรกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติพระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งประสูติเมื่อวันศุกร์ที่29เมษายน2548และทงเจริญพระชันษาครบ15ปีเนื่องในโอกาสนี้ขอนำเสนอเรื่องราวกับที่มาและความหมายของพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีบังกรรัศมีโชตมหาวชิโรตตมางกูรสิริวิบูลยราชกุมารซึ่งเปรี่ยมด้วยความหมายอัน เป็นมงคลและที่มาอันน่าประทับใจจากพระนามและพระอิสริยยศก่อนหน้านี้พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีบังกรรัศมีโชติพระราชานโดยพระอัยกาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตรเมื่อวันที่15มิถุนายน 2548ซึ่งในกาลนี้ในหลวงรัชกาลที่9ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอธิบายความหมายของพระนามดังกล่าวไว้ว่าผู้ทำประทีปคือปัญญาให้สว่างกระจ่างแจ้งและผู้ทำเกาะคือที่พึ่งให้รุ่งเรืองโชตช่วงต่อมาในวันที่4กรกฎาคม[เพลง]2548พระบาทสมเด็จพระชนกาธิ เบศมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เขียนพระนามเป็นภาษาอังกฤษว่าชื่อภาษาอังกฤษของพระองค์ก็อยู่ข้างบนนี้นะคะนอกจากนี้พระนามดังกล่าวจะเป็นพระนามมหามงคลที่พระ ราชทานดยในหลวงาลที่9แล้วคำว่าทีบังกรยังเป็นที่มาอันเป็นมงคลทางพุทธศาสนาอีกด้วยเพราะเป็นพระนามของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในจำนวน28พระองค์นั่นคือพระทีบังกรพุทธเจ้าจากนั้นเมื่อวันที่5พฤษภาคม2562 ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพุทศักราช2562พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสุนทรมหาวชิราลงกรณ์พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หทรงพระกรุณาโปรดกลโปรดกระหม่อมให้สถาปนาและเฉลิมพระนามเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธเจ้าฟ้าทีบังกรรัศมีโชติมหาวิโรมากูสิริวิบูลยราชกุมารเนื่องในโอกาสวันคยวัน ประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธเจ้าฟ้าทีมังกรรัศมีโชติมหาวชิโรตตมางกูรสิริบุญราชกุมารทรงพระเจริญพระพรรษาครบ15ปีขอพระองคทรงพระเกษมสำราญทรงมีพระบญแข็งแรงและทรงพระเจริญขอขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามารับฟังรับชมข่าวสารชอบกดไลก์ใช่กดแชร์ฝากกดติดตามกดกระดิ่งด้วยค่ะเพติดขนค่อน

ข่าวร้ายสำหรับแฟนๆ เจ้าชายทีปังกร และ ศรีรัศมิ์ สุวดี Read More

ข่าวใหญ่! ราชินีสุธิดา สนับสนุนทีมวอลเลย์บอลหญิง

โอ้นี่หลวงพระราชินีพระราชทานกำลังใจทีมวอลเลย์บอลหญิงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยทีมงานผู้ฝึกสอนและสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยค่ะที่ในหลวงและพระราชินีทรงโปรดให้ราชเลขานุการในพระองค์โทรศัพท์ทางไกลมาพระราชทานกำลังใจก่อนการแข่งขันกับทีมชาติสหรัฐอเมริกาถือว่ายังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญนะคะต่อการเข้ารอบของสาวไทยในศึกวอลเลย์บอลเนชั่นส์42022ซึ่งเมื่อวันที่19มิถุนายนที่ผ่านมาก็พบศึกหนักคือทีมชาติสหรัฐอเมริกา ค่ะซึ่งเรียกได้ว่าเป็นทีมแกร่งอีกทีนึงที่พวกดีกรีทีมrankingอันดับหนึ่งของโลกเมื่อต้องพบกับศึกหนักไหมคะกำลังใจที่พระราชทานให้ก็นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ทีมวอลเลย์บอลที่2ค่ะตัวนี้ตอนค่ำของวันที่17มิถุนายนเวลา22นาฬิกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์สุขวิมลราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโทรศัพท์ทางไกลไปถึงนายดนัย วัชรเมธากุลหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมงานและนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยเพื่ออัญเชิญพระราชกระแสพระราชทานกำลังใจให้นักกีฬาในการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นลีกความว่าถ้าหูทรงทอดพระเนตรและติดตามการแข่งขันของทีมชาติไทยทรงชื่นชมและเห็นถึงความรู้เห็นมุ่งมั่นตั้งใจจนทำผลงานออกมาได้ดีแม้ในนัดล่าสุดที่พบกับทีมญี่ปุ่นจะพ่ายแพ้จะส่งเห็นถึงความตั้งใจของทุกคนที่เล่นได้อย่างดีทรงเห็นว่านักกีฬาที่เป็นกำลังหลักเจ็บป่วยผมจึงทำให้ทีมมีจุด อ่อนจึงพระราชทานกำลังใจให้นัก[เพลง]กีฬาว่าอย่าท้อแท้ขอให้มุ่งมั่นตั้งใจต่อไปเพื่อให้ทีมไปถึงจุดมุ่งหมายนำชื่อเสียงกว่าประสงค์ประเทศชาติและเป็นของขวัญให้กับประชาชนชาวไทยทุกคนซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยทีมงานผู้ฝึกสอนและสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยอย่างหาที่สุดมิได้เราไปฟังเสียงของพลอากาศเอกสถิตย์พงษ์สุขวิมลราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกันเลยค่ะอ่ะ[เพลง] ม6คณะของธิดาวอลเลย์บอลครับผมเป็นห่วงครับเป็นขวัญและกำลังใจของนักกีฬาวอลเลย์บอลทุกคนนะครับแล้วก็มันตั้งใจที่จะนำจริงแต่ตอนนี้บรรณของเราให้ก้าวไปคือจุดมุ่งหมายนะครับก็ทรงพระอาการกับ2ก่อนให้กับจนประการเติมชาวไทยทุกคนครับขอให้ประสบความสำเร็จใจที่ได้มันตั้งใจไว้ครับแต่มานะครับผมสั่งแล้วทำไมใจฉันทีลาแล้วก็คือจริงๆครับผมขอบคุณมากครับผมชอบตรงนี้เกี่ยวเข้าเจริญครับผมเดี๋ยวผมจะได้น้ำตกพาเจริญครับนักกีฬาอยู่ตรงนี้ทั้งหมดขอคุณครับรับ ทราบความประสงค์ของเหล็กขั้นเป็นอย่างของพระองค์นะครับเขาก็คงเป็นอย่างดีครับแล้วก็จะเพียงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เต็มความสามารถครับผมแต่ผมหน่อยครับ[เพลง]สำหรับอยากทราบนะครับครับขอก็คุณมากครับผมครับสวัสดีครับผมนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านทรงมีต่อนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยกำลังจะมุกมันทำหน้าที่เต็มกำลังเป็นความสามารถขึ้นนำชื่อเสียงกับสุระเทศไทยค่ะสำหรับกีฬาวอลเลย์บอลนั้นนะคะก็เป็นกีฬาที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีตรวจเป็น การส่วนพระองค์โดยพระองค์ก็เคยส่งวอลเลย์บอลกับทีมนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขอเข้าเฝ้าณกรมทหารราบที่7ค่ายกาวิละจังหวัดเชียงใหม่เมื่อช่วงปีใหม่ของปี2564ด้วยค่ะการที่ส่งเสริมกีฬาวอลเลย์บอลนั้นจึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยทีมงานผู้ฝึกสอนและสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยอย่างหาที่สุดมิได้ที่มันหิวและทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของในหลวงพระราชินีพระราชทานกำลังใจทีม

ข่าวใหญ่! ราชินีสุธิดา สนับสนุนทีมวอลเลย์บอลหญิง Read More

เกือบทั้งประเทศไม่เคยรู้!! คำทำนาย อัศจรรย์พระอาทิตย์ทรงกลด วันประสูตร เจ้าฟ้าทีปังกรฯ

กดติดตามและกดกระดิ่งแจ้งเตือนของช่องเราด้วยนะคะเมื่อพระอาทิตย์ทรงกลดประชาชนต่างแซ่ซ้องพระบรมีของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติคนพวกกลุ่มตะลึงพระอาทิตย์ทรงกลดตอนเที่ยงเสมือนต้อนรับงานวันเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันประสูติพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติพระโอรสในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมารและพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศพระวรชายาคณะที่การจัดงานต่างๆทั่วเมืองหลวงฝนเทลงมาดังน้ำมนต์ก่อนจะหยุดไปช่วงเปิดงานส่วนคลื่นประสบนิกรแห่ลงนามถวายพระพรพระโอรสทุกจุดแสดงความจงรัก ม 4 พร้อมนำพระฉายาลักษณ์ไว้สักการะบูชาด้านจุดจัดงานต่างๆขนแน่นขนาดแห่ดูการแสดงเน้นศิลปะวัฒนธรรมไทยที่หาดูยากดารานักแสดงร่วมสร้างความบันเทิงจุดเยาวราชฝูงชนเบียดเสียดแย่งไข่ต้มสีแดงกันเพียบงานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันประสูติพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติพระโอรสในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมารและพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์พระวรชายาที่ทางกรุงเทพฯร่วมกับภาครัฐและเอกชนจัดขึ้นเพื่อแสดงความจงรักภักดีนั้นในช่วงเช้าของวันที่ 24 มิถุนายนผู้สื่อข่าวรายงานบริเวณท้องสนามหลวงลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์สวนสันติชัยปราการสวน นายพัฒนใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรีซุ้มประตูจีนวงเวียนโอเดียนเยาวราชลานคนเดินและอุทยานสาธารณะเบญจสิริซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลองพระเกียรติพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติมีเจ้าหน้าที่ได้มาจัดเตรียมสถานที่กันอย่างพร้อมเพียงขณะที่บรรยากาศก่อนงานฉลองเริ่มนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเวลา 12:35 เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติพระอาทิตย์ทรงกลดเป็นวงใหญ่มากทำให้ประชาชนที่มองเห็นต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าพระอาทิตย์ทรงกลดเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่บ่อยและเกิดขึ้นในวันนี้เหมือนเป็นการแซ่ซ้องพระบารมีมีของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ อยู่ในช่วงเย็นตามสถานที่จัดงานต่างๆมีประชาชนเดินทางมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมากโดยบริเวณท้องสนามหลวงไม่มีการจัดริ้วขบวนเฉลิมพระเกียรติโดยก่อนวิธีจะเริ่มปรากฎว่ามีฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้ประชาชนที่มาร่วมงานหาที่หลบฝนแต่ริ้วขบวนที่ตั้งอยู่ไม่ได้มีไปไหนได้เดินขบวนบนรอบสนามหลวงกระทั่งมีการนำผ่านพุ่งมาวางหน้ารูปพระฉายาลักษณ์ในพระบรมวงศานุวงศ์ที่ตั้งประดิษฐานอยู่หน้าประพิธีฝนที่กำลังตกลงมาได้หยุดตกทันทีประชาชนที่มาร่วมงานต่างส่งเสียงร้องฮือฮาพร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ว่าว่าฝนหยุดตกเพราะพระบารมีของพระโอรสทั้งนี้ในจุดต่างๆที่มีการจัดพิธีเฉลิมฉลองมีฝนตกมาทุกแห่งก่อนงานจะเริ่มขึ้นแต่เมื่องานร.ร มาแล้วพบว่าฝนจะหยุดตกในทันที่ทำให้ประชาชนที่ไปร่วมงานแต่ละจุดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเทพยดาอารักษ์ทั้งหลายได้โปรยปรายน้ำมนต์ลงมาในโอกาสจัดงานเฉลิมฉลองพระเกียรติพระโอรส เขียนโดยพระนามพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติพระราชทานโดยพระอัยกาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2548 ซึ่งในการนี้ในหลวงรัชกาลที่ 9 [เพลง] ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอธิบายความหมายของเพื่อนำในกล่าวไว้ผู้ธรรมประทีปคือปัญญาให้สว่างกระจ่างแจ้งและผู้ทำเกาะคือที่พึ่งให้รุ่งเรืองโชติช่วงต่อมาในวันที่ 4 กรกฎาคม 2548 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรทรงพระโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เขียนพระนามของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติเป็นภาษาอังกฤษว่าว่าเฮ็ด Royal highness Princess เต็มที่ปังกรรัศมีโชตินอกจากพระนามของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติจะเป็นพระนามมหามงคลที่พระราชทานโดยในหลวงรัชกาลที่ 9 …

เกือบทั้งประเทศไม่เคยรู้!! คำทำนาย อัศจรรย์พระอาทิตย์ทรงกลด วันประสูตร เจ้าฟ้าทีปังกรฯ Read More

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเจ้าฟ้าทีปังกรและท่านผู้หญิง ศรีรัศมี สุวดี

ก็สืบเนื่องมาจากหลังจากที่จะมีภาพของท่านศรีรัศมิ์สุวะดีปรากฏต่อหน้าสาธารณชนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและเรื่องนี้เองก็ได้ทำให้ประชาชนหลายฝ่ายนั้นต่างให้ความสนใจและเป็นกระแสคือหาอีกครั้งหนึ่งถึงแม้ว่าเรื่องนี้อาจจะทำให้ประชาชนหลายฝ่ายนั้นต่างพากันคาดเดากันไปต่างๆนานาแต่แน่นอนว่า80%ของประชาชนหลายไฟล์ต่างชื่อว่าเหตุการณ์การปรากฏตัวอีกครั้งของท่านศรีรัศมิ์นั้นเป็นเรื่องจริงแต่ก็อาจจะมีประชาชนบางส่วนที่อาจจะยังไม่ปักใจ เชื่อนางและแน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจเพราะท่านศรีรัศมิ์นั้นเป็นอีกหนึ่งยอดสตรีที่ทรงคุณค่าและท่านก็ได้สร้างคุณงามความดีเอาไว้อย่างมากมายเมื่อตอนที่เธอนั้นยังดำรงตำแหน่งเป็นพระวรชายาแห่งราชวงศ์จักรีอีกครั้งเธอยังเป็นพระมารดาขององค์ชายน้อยในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสืบเนื่องมาจากเรื่องนี้เองในวันนี้ข้าพเจ้าปี5เรื่องที่น่ารู้เกี่ยวกับเจ้าฟ้าที่ป่ะขอพรองค์ชายน้อยแห่งราชบัลลังก์จักรี วงศ์เรื่องสิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือพระองค์ท่านยังอยู่ในลำดับถัดไปในราชบัลลังก์ไทยและเรื่องนี้ก็ยังคงมีความลึกลับที่ได้ถูกปกปิดเอาไว้ในช่วงที่พระองค์ท่านต้องห่างจากพระมารดาอันเป็นที่รักยิ่งและพระองค์ท่านใช้ชีวิตอย่างไรบางมาขุดราชกุมารวัย16ปีและนี่ก็คือเรื่องราวบางสิ่งเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับพระองค์ท่านที่คุณอาจจะยังไม่รู้อย่างเป็นที่รู้กันดีว่าพระนามของเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชตินั้นเป็นพระนามพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชซึ่งมีความหมายที่เป็นมหามงคลว่าผู้ธรรมประทีปคือปัญญาให้สว่างกระจ่างแจ้งผู้ทำก็คือที่พึ่งให้รุ่งเรืองโชติช่วงและเรื่องที่น่ารู้เรื่องที่1พระองค์ท่านเป็นพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียวที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางผลงานจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งประเทศไทยและเมื่อวันที่4กรกฎาคมพ.ศ2548พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เขียนพระนามของเจ้าฟ้าทีปังกร รัศมีโชติโอนเป็นภาษาอังกฤษว่าคิดเราเช่าไฮเน็ตพื้นทีปังกรรัศมีโชติโดยมีพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่เมื่อวันที่17มิถุนายนพ.ศ2548ในพระที่นั่งอนันตสมาคมตามพระราชประเพณีเมื่อทรงมีพระชนมายุครบ1เดือนอีกด้วยเรื่องน่ารู้เรื่องที่2เมื่อครั้งที่เจ้าฟ้าที่บางกรพระชนมายุ90พรรษาโดยพระองค์ท่านได้อยากจากพระมารดาอันเป็นที่รักคือท่านศรีรัศมิ์สุวะดีและหลังจากนั้นเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติโอนได้ส่งไปศึกษาที่ประเทศเยอรมนีและในตอน นี้พระองค์ท่านทรงกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติเบาเอ่อInternationalSchoolแห่งรัฐบาวาเรียประเทศเยอรมนีและบ่อยครั้งประชาชนชาวไทยก็มาก็เห็นภาพกิจกรรมสุดอบอุ่นระหว่างเจ้าฟ้าทีปังกรและพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัววัวพร้อมด้วยพระสหายร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆมากมายในระหว่างที่พระองค์ท่านทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศเยอรมนีไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงในโอกาสวันคล้ายวันประสูติของเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติโอนซึ่งเล่นนี้ก็ได้แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงความรักความ ผูกพันระหว่างเจ้าฟ้าทีปังกรและพระราชบิดาคือในหลวงรัชกาลที่10ถึงแม้ว่าจะไม่มีพระมารดาอยู่เคียงข้างก็ตามแต่พระองค์ท่านก็สามารถเติมเต็มความรักความผูกพันให้แก่องค์ชายน้อยได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องและเรื่องน่ารู้เรื่องที่3เจ้าฟ้าทีปังกรมักจะเสด็จกลับประเทศไทยทุกครั้งโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลที่สำคัญต่างๆเพราะพระองค์ท่านทรงมีความรักและความผูกพันกับผมคิดไทยเป็นอย่างมากและนอกจากนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดพระองค์ ท่านก็จะทรงนำพระสหายมาท่องเที่ยวประเทศไทยด้วยอยู่ในบ่อยครั้งอย่างเช่นครั้งล่าสุดในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงวันหยุดอีสเตอรเจ้าฟ้าทีปังกรทรงนำพระสหายมาต้องเที่ยวเมืองไทยและทรงประกอบพิธีบวงสรวงพื้นที่โคกหนองนาโครงการจัดการพื้นที่การเกษตรตามพระราชดำริน้ำบริเวณพระตำหนักเกลื่อนตนพระที่นั่งวิมานเมฆพระราชวังดุสิตโดยเป็นการปฏิบัติโคกหนองนาร่วมกันอย่างมีความสุขสุดองค์อื่นๆซึ่งเป็นภาพที่ไม่เปิดเผยอย่างเป็น ทางการนักโดยเป็นการจัดภาพได้จากประชาชนบางส่วนโดยในFacebookของอาจารย์สมศักดิ์เจียมธีรสกุลก็ได้มีการเผยแพร่ภาพของพระสหายเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจและในการนี้เจ้าฟ้าทีปังกรได้เสด็จกลับเยอรมันนีก่อนจะหมดวันหยุดในช่วงเทศกาลEasterซึ่งโดยปกติแล้ววันหยุดในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ของเยอรมนีก็จะหยุดถึงปลายเดือนเมษายนซึ่งคาดว่าอาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิช19สายพันธุ์ใหม่ในประเทศไทยโดยเมื่อปีที่ผ่านมาพระงานอุ่นไอรักจาก ฟ้าทีปังกรทรงนำพระสหายมาเยี่ยมชมงานอุ่นไอรักและทอดพระเนตรกิจกรรมต่างๆภายในงานพิธีด้วยพระโมเม้นท์สุดอบอุ่นและด้วยความใส่พระทัยซึ่งกันและกันและเรื่องนี้เองก็ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสดใสสมวัยและพระปรีชาสามารถอันหลากหลายถึงแม้ว่าพระองค์ท่านนั้นจะไม่มีพระมารดาอยู่ใกล้ชิดก็ตามและเรื่องน่ารู้เรื่องที่4จะฟ้าทีปังกรยังเป็นจิตอาสาผู้โอ่งอารีย์อีกด้วยเมื่อความที่พระองค์ท่านมีพระชนมายุเพียงแค่14พรรษาโดยที่ประชาชนชาว ไทยจะได้ทรงเห็นการทำความสะอาดหน้าต่างและทาสีผนังพระวิหารส่งกวาดลานวัดและทำอาหารถวายพระด้วยพระองค์เองโดยเจ้าฟ้าทีปังกรได้ทรงร่วมมีกิจกรรมกับพระสหายในพระอิริยาบถต่างๆอีกทั้งทรงสนทนาธรรมกับเจ้าอาวาสวัดทรงเก็บกวาดพื้นที่หน้าห้องที่ประทับทางแรมและทรงประกอบอาหารทั้งคาวหวานสำหรับเตรียมถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์โดยพระองค์เองอีกด้วยซึ่งเรียกว่าทั้งหมดนี้เป็นกิจกรรมดีๆและสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนโยนและจิตใจที่เขาสะอาดขององค์ ชายน้อยของปวงชนชาวไทยอีกด้วยถึงแม้ว่าพระมารดาจะไม่ได้คอยดูแลอย่างใกล้ชิดแต่พระองค์ท่านก็สามารถปฏิบัติตนได้เป็นอย่างดีไม่มีนอกลู่นอกทางซึ่งเปรียบเสมือนมีพระมารดาคอยดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่ทุกเวลาและนอกจากในพระองค์ท่านอย่างได้รับความรักและความผูกพันจากพระบิดาและบุคคลใกล้ชิดจากพระบรมวงศานุวงศ์ที่คอยดูแลเอาใจใส่ให้ความรักความห่วงใยอยู่เสมอมาซึ่งน่ารู้เรื่องที่5พระองค์ท่านเป็นองค์รัชทายาทอันดับที่1แห่งราชบัลลังก์ จากตรีโดยประชาชนหลายฝ่ายต่างก็ให้น่าสนใจถึงเรื่องนี้กันเป็นอย่างมากซึ่งอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่มีใครที่จะคาดเดาได้โดยประชาชนหลายฝ่ายต่างเชื่อว่าผู้สืบทอดเป็นองค์รัชทายาทรัชกาลต่อไปนั้นน่าจะเป็นเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติโอนและการประกบตัวอีกครั้งของท่านศรีรัศมิ์ในครั้งนี้

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเจ้าฟ้าทีปังกรและท่านผู้หญิง ศรีรัศมี สุวดี Read More

สาเหตุที่พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงประชวรด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดที่ทุกคนต้องใส่ใจ

เป็นเหตุให้พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภามีพระอาการประชวรต้องนำส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นการด่วนหลายคนอาจยังไม่ทราบหรือยังคงสับสนอยู่มากเกี่ยวกับเรื่องนี้วันนี้ช่องยูทูปไทยแลนทรีของเราจะมาให้ข้อมูลแบบเจาะจงและละเอียดว่าทำไมเจ้าหญิงถึงเป็นโรคหลอดเลือดในสมองแตกจนต้องเข้าห้องฉุกเฉินเนื่องจากเวลาทองสำหรับจังหวะคือ60นาทีในแต่ละนาทีที่ผ่านไประดับของความเสียหายต่อระบบประสาทจะรุนแรงขึ้นพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงประชวรพระ หัตถ์ไทยวายเฉียบพลันเมื่อนานมาแล้วเมื่อประชาชนได้เห็นพระองค์ท่านออกสื่อในกิจกรรมส่วนพระองค์ใครๆก็เห็นได้ชัดว่าพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภามักมีพระอาการซูบผอมพระองค์คล้ำผิวหน้าซีดเซียวเป็นสัญญาณของภาวะหัวใจล้มเหลวและเป็นปัญหาที่กระทบกระเทือนจิตใจของในหลวงรัชกาลที่10เป็นอย่างมากในฐานะพ่อและพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภายังเป็นที่รักยิ่งของรัชกาลที่10ในหลวงทรงห่วงใยพระพลานามัยของสมเด็จเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาอยู่เสมอและโปรดเกล้าให้ คณะแพทย์เฝ้าติดตามและรายงานพระพลานามัยของสมเด็จเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาให้ทราบโดยเร็วอยู่เสมอปัญหาประการที่2คือในช่วงหลายเดือนมานี้พระพลานามัยของพระองค์เจ้าโสมสวลีพระมารดาในพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาไม่ค่อยดีนักทำให้พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาต้องทรงคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เห็นได้ชัดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาว่าพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาเสด็จเยี่ยมและดูแลพระมารดาอยู่เหนือๆเรื่องนี้ทำให้พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงสูญเสียกำลังพระ วรกายและเจ้าหญิงทรงมีพระโรคหลอดเลือดสมองขณะทรงฝึกสุนัขส่วนหนึ่งเป็นความผิดของคณะแพทย์หลวงด้วยที่ไม่ดูแลพระพลานามัยของพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาอย่างใกล้ชิดการให้เจ้าหญิงในส่วนร่วมในกิจกรรมทางกายมากเกินไปนั้นไม่ดีต่อสุขภาพประเด็นที่3จากข้อมูลวงในพระราชวงศ์พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาจริงๆแล้วทรงหมดไปตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนตั้งแต่ทรงฉีดวัคซีนป้องกันโควิดคู่กับสุนัขอันเป็นที่รักและมักจะอยู่เคียงข้างเจ้าหญิงผู้สิ้น พระชนม์การสูญเสียสุนัขอันเป็นที่รักทำให้พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงพระประชวรหนักและต้องรับประทานยาต้านเศร้าทำให้พระอาการพระหฤทัยของพัชรกิติยาภากำเริบขึ้นจนทำให้พระสวาทมีต้องถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินโชคดีที่สุขภาพในปัจจุบันของเจ้าหญิงทรงตัวและฟื้นตัวแล้วเรากังวลเฉพาะเมื่อพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาเสด็จออกจากโรงพยาบาลและกลับบ้าน

สาเหตุที่พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงประชวรด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดที่ทุกคนต้องใส่ใจ Read More

เปิดเบื้องลึกท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี | เรื่องจริงที่อาจนำเธอกลับสู่ตำหนักอีกครั้ง?

ไม่ใช่ทุกกรงทองจะปลอดภัยและไม่ใช่ทุกความงามจะมีอิสระณช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ร่วมสมัยไทยชื่อของศรีรัตน์สูดีกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสวยสง่าและลึกลับเธอไม่ได้เป็นเพียงผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างรัชทายาทแต่คือภาพจำของหญิงสาวผู้ได้รับพรหมลิขิตที่หลายคนคิดว่าโชคดีจากหญิงธรรมดาในครอบครัวสามัญสู่ชีวิตในรั้ววังที่เต็มไปด้วยกล้องถ่ายภาพสื่อและสายตาสาธารณะเธอปรากฏในงานพิธีด้วยรอยยิ้มและเครื่องแต่งกายเลอค่าพร้อมด้วยคำ เรียกขานที่เปลี่ยนไปเพราะวรชายาแต่สิ่งที่โลกภายนอกเห็นคือเพียงฉากหน้าแวววาวของบทละครที่ซ่อนเบื้องหลังไว้ลึกความงามของเธอกลับกลายเป็นหน้าต่างจำกัดเสรีภาพที่คนจำนวนมากมองผ่านแต่ไม่เคยมองเข้าไปสื่อมวลชนในยุคนั้นพูดถึงเธออย่างสวยดุจราชินีผู้หญิงธรรมดาผู้โชคดีนางรองผู้พิชะตาแต่ไม่ใช่คำใดที่กล่าวถึงความสามารถหรือหัวใจของเธอเลยหลายคนตั้งคำถามว่าเธอเหมาะสมหรือไม่กับบทบาทในรั้ววังกับเครื่องเพชรที่คล้องอยู่บนคอบางเสียง เปรียบเธอเป็นดอกไม้แปลกหน้าในสวนหลวงบางเสียงก็กล่าวว่าเธอเป็นเพียงภาพลวงตาแห่งความรักไม่มีใครรู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรในวันที่เธอต้องยืนท่ามกลางคำชมที่แฝงคำพิพากษาในวังหลวงไม่ใช่ทุกอย่างคือแสงไฟและเสียงปรบมือแต่เป็นพิธีการที่แม้แต่รอยยิ้มก็ต้องผ่านการฝึกศรีรัตน์ไม่ได้เป็นเพียงภรรยาเธอคือสตรีในระบบราชสำนักที่มีกฎเกณฑ์มากกว่าที่คนทั่วไปเข้าใจและภายใต้กรอบของตำแหน่งเธอถูกส่องไฟตลอดเวลาแต่ไม่มีสิทธิ์ตอบกลับพูดมากไปก็ผิดพูดน้อย ไปก็ห่างเหินแม้แต่การก้าวเดินก็อาจกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งในวันรุ่งขึ้นนั่นคือกรงทองคำสวยหรูแต่มีกุญแจล็อคจากความคาดหวังของคนทั้งประเทศเราไม่มีบันทึกความรู้สึกจริงๆจากเธอในยุคนั้นไม่มีการให้สัมภาษณ์ไม่มีคำชี้แจงไม่มีเรื่องเล่าสิ่งที่เธอทิ้งไว้ให้เราคือภาพและความเงียบแต่ในความเงียบนี้เองผู้หญิงธรรมดาที่ถูกผลักดันให้รับบทชีวิตสุดขั้วกลับเรียนรู้ที่จะยิ้มให้สื่อเดินอย่างสงบในพายุของสายตาและเงียบอย่างสง่างามเพราะ เธอรู้ดีว่าในโลกที่เสียงของผู้หญิงมักไม่ถูกรับฟังความเงียบที่มีสติบางครั้งก็เปล่งพลังได้มากกว่าคำพูดกรงทองคำไม่ได้หมายถึงชีวิตที่สบายแต่มันคือคุกของความคาดหวังความเปราะบางยอมรับและภายใต้เปลือกนอกแห่งความหรูหราศรีรัตน์เริ่มต้นบทบาทที่ไม่มีใครสอนบทบาทของผู้หญิงที่ถูกมองผ่านจงอย่าประเมินค่าความเงียบต่ำเกินไปเพราะบางครั้งมันคือเสียงร้องที่ดังที่สุดเมื่อสื่อเลิกพูดถึงความงามและผู้คนเริ่มหันไปสนใจเขาศรีรัตน์กราบยังคง ยืนอยู่แม้ในวันที่ทุกอย่างรอบตัวพังทลายจากผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ข้างเจ้าฟ้ากลายเป็นหญิงสามัญที่ต้องเผชิญกับเสียงวิจารณ์อันหนักหน่วงไม่ใช่ด้วยการตอบโต้ไม่ใช่ด้วยน้ำตาแต่ด้วยความเงียบที่เปล่งพลังลังยิ่งกว่าเสียงตะโกนใดไม่มีใครเตรียมเธอให้พร้อมกับการเปลี่ยนสถานะฉับพลันจากพระวรชายากลายเป็นเพียงชื่อศรีรัตน์สุวดีไม่มีพิธีอำลาไม่มีคำแถลงไม่มีความเห็นมีเพียงข่าวสารที่ถูกปล่อยออกมาเหมือนคำพิพากษาจากศาลที่ไม่มี สิทธิ์อุทธรณ์เธอสูญเสียตำแหน่งสูญเสียภาพลักษณ์สูญเสียแม้แต่สิทธิ์ในการใช้คำว่าแม่ต่อหน้าสาธารณะนักแต่ในความสูญเสียนั้นเธอไม่เคยสูญเสียศักดิ์ศรีและความเงียบสงบที่เธอเลือกหลังจากหายไปจากสื่อศรีรัตน์ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลยต่อหน้าสาธารณะไม่มีภาพถ่ายไม่มีบทสัมภาษณ์ไม่มีรอยยิ้มที่ถูกบังคับแต่สิ่งหนึ่งที่เรารับรู้ได้คือเธอยังมีชีวิตอยู่และเธอเลือกใช้ชีวิตเงียบๆในพื้นที่เล็กๆที่ปราศจากสายตาโลกพื้นที่ที่เธออาจจะได้ เป็นตัวเองครั้งแรกในรอบหลายสิบปีไม่มีเสียงบ่นไม่มีการปกป้องตนเองมีแต่ความเข้าใจลึกๆว่าบางเรื่องการยอมรับมันเงียบๆคือการเข้มแข็งที่สุดแล้วสังคมมักเข้าใจผิดว่าผู้หญิงที่ไม่ตอบโต้คือผู้หญิงอ่อนแอแต่ในกรณีของศรีรัตน์เธอเลือกที่จะไม่สู้กลับด้วยเสียงแต่สู้ต่อด้วยการมีชีวิตอยู่ต่อไปลองนึกภาพดูหากเป็นเราที่ต้องสูญเสียทั้งชื่อเสียงความรักลูกและความหมายของชีวิตจะมีสักกี่คนที่ยังยืนอยู่ได้โดยไม่ล้มลงในปรัชญาสตอิโบราณมีคำ กล่าวว่าเราควบคุมสิ่งภายนอกไม่ได้แต่เราควบคุมวิธีตอบสนองได้เสมอศรีรัตน์อาจเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของคำกล่าวนี้เธอไม่อาจควบคุมสื่อไม่อาจควบคุมสังคมแต่เธอควบคุมจิตใจตนเองได้อย่างน่าอัศจรรย์ภายใต้เงามืดของการถูกกลมศรีรัตน์ไม่เคยตะโกนเรียกร้องความเห็นใจแต่เลือกใช้การมีอยู่ของเธอเป็นคำตอบในตัวมันเองในโลกที่เสียงดังหมักได้พื้นที่ผู้หญิงคนนี้เลือกความเงียบและมันกลับดังก้องในใจผู้คนยิ่งกว่าใครพลังแท้จริงไม่จำเป็นต้อง แสดงให้เห็นแต่รู้สึกได้เมื่อเราหายไปในยุคที่เรื่องราวของเธอครองหน้า1หนังสือพิมพ์หลายคนเชื่อว่าศรีรัตน์เป็นเพียงภาพลักษณ์หญิงสาวผู้อยู่ข้างเจ้าฟ้างดงามตามแบบฉบับผู้หญิงในวังและเพียงเท่านั้นแต่สิ่งที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงคือบทบาทเบื้องหลังที่ไม่มีใครให้เครดิตงานเล็กงานเงียบงานที่ไม่ออกข่าวแต่นำพาความเปลี่ยนแปลงในระดับจิตวิญญาณของผู้คนในช่วงเวลาที่เธอยังมีตำแหน่งศรีรัตน์เคยเกี่ยวข้องกับกิจกรรมหลายด้านตั้งแต่การส่งเสริมเด็ก ด้วยโอกาสการสนับสนับสนุนโครงการศึกษาทางไกลไปจนถึงการปลูกฝังคุณธรรมผ่านโครงการเฉพาะกลุ่มในชนบทไม่ใช่บทบาทพิธีการบนเวทีใหญ่แต่คือการนั่งกับแม่บ้านเกษตรกรการจับมือกับเด็กในพื้นที่ห่างไกลการพูดคุยแบบเรียบง่ายกับคนธรรมดาในชุมชนสิ่งเหล่านี้ไม่มีภาพแฟรดไม่มีการประกาศเกียรติแต่คนที่อยู่ตรงนั้นจำได้แม้เธอจะไม่มีตำแหน่งใดทางการเมืองและไม่ใช่พระราชินีตามราชโองการแต่ในช่วงเวลาหนึ่งเธอเป็นแรงบันดาลใจเงียบๆให้กับผู้หญิงไทย จำนวนมากผู้หญิงที่เคยรู้สึกว่าการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงส่งต้องมาจากเชื้อสายเริ่มมีความหวังว่าความดีและการศึกษาก็อาจเปลี่ยนชะตาได้เธอไม่ได้เปลี่ยนแปลงประเทศไทยอย่างเป็นทางการแต่เปลี่ยนมุมมองของผู้หญิงเกี่ยวกับคุณค่าในตัวเองเพราะเมื่อข่าวของเธอหายไปบางคนกลับเริ่มคิดถึงความสงบในแว้วตานั้นบางคนยังจำคำพูดอ่อนโยนของเธอในพื้นที่ห่างไกลบางคนเริ่มตั้งคำถามว่าเราเคยมองเธออย่างไม่ยุติธรรมไปหรือเปล่าและบางคนเริ่มมองย้อน กลับมาเข้าใจว่าศรีรัตน์เคยให้บางสิ่งกับประเทศนี้แม้จะไม่มีใครจารึกชื่อเธอไว้ในแผ่นหญินเธอไม่เคยแก้ต่างให้ตัวเองไม่เคยออกมาบอกเล่าว่าเคยทำอะไรไว้บ้างไม่เคยเรียกร้องให้คนหันกลับมามองใหม่แต่สิ่งที่เธอไม่ได้พูดกลับกลายเป็นเสียงสะท้อนที่ดังกว่าใครในวันที่ทุกคนเริ่มถามหาความจริงในปรัชญาตะวันออกมีคำกล่าวว่าเมื่อมนุษย์คนหนึ่งหายไปจากสืบแต่ไม่หายไปจากใจผู้คนนั่นคือความยิ่งใหญ่แบบเงียบงันและนั่นอาจเป็นบทบาทที่แท้จริง ของศรีรัตน์ตลอดมาไม่มีความสำเร็จใดที่วัดได้จากพาดหัวข่าวไม่มีเกียรติเกียรติยศใดที่ยั่งยืนเพียงเพราะตำแหน่งสิ่งที่ศรีรัตน์ทิ้งไว้คือมรดกทางความรู้สึกที่ยังส่งต่อแรงบันดาลใจแม้จะไม่มีชื่อเธอในบันทึกทางการแสงสว่างบางดวงไม่ได้ส่องจากภายนอกแต่มาจากภายในใจที่ไม่ดับลงหลังจากหายไปจากพื้นที่สาธารณะศรีรัตน์กลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงน้อยลงในสื่อไม่มีภาพถ่ายไม่มีข่าวสารไม่มีการปรากฏตัวแต่การหายไปนั้นกลับทำให้ค้น จำนวนมากเริ่มมองเธอใหม่ด้วยสายตาที่ไม่เหมือนเดิมชีวิตหลังราชสำนักของศรีรัตน์เต็มไปด้วยความเงียบที่หนักแน่นเธอไม่ได้ตอบโต้ความเข้าใจผิดไม่ได้แสดงความเจ็บปวดผ่านการแถลงข่าวไม่ได้กลับมาเรียกร้องตำแหน่งหรือโอกาสในอดีตแต่ทุกความเคลื่อนไหวของเธอหรือแม้แต่ความไม่เคลื่อนไหวกลับถูกสังคมจับตาด้วยความรู้สึกค้างคาใจบางอย่างเพราะผู้หญิงคนนี้ไม่เคยพูดแต่กลับสื่อสารได้มากกว่าผู้หญิงคนไหนในโลกของซือยุคใหม่การเงียบคือการหายไป จากความสำคัญแต่ศรีรัตน์กลับพิสูจน์ว่าการเงียบอาจเป็นการรักษาศักดิ์ศรีที่สูงที่สุดเธอไม่มีตำแหน่งไม่มียศไม่มีสัญลักษณ์แต่เธอมีความสงบที่ยิ่งใหญ่กว่าเกียรติใดในพิธีการเหมือนสายน้ำที่ไม่จำเป็นต้องส่งเสียงแต่ยังคงหล่อเลี้ยงทุกชีวิตอย่างเงียบงันไม่มีใครรู้ว่าชีวิตของเธอในวันนี้เป็นอย่างไรบางแหล่งข่าวบอกกว่าเธอใช้ชีวิตเรียบง่ายห่างไกลจากความวุ่นวายบางคนกล่าวว่าเธอยังติดตามเรื่องของพระโอรสอยู่เงียบๆไม่ว่าเรื่องใดจะเป็นความจริง สิ่งที่เราเห็นแน่ชัดคือเธอไม่เคยพาตัวเองกลับมาในแบบที่ผิดทางไม่เคยใช้ความเจ็บปวดเพื่อเรียกร้องความเห็นใจไม่เคยเปลี่ยนตัวตนเพื่อเอาชนะความรู้สึกผิดของสังคมเธอเลือกที่จะอยู่อย่างที่เธอเป็นและนั่นคือสิ่งที่ยากที่สุดในโลกใบนี้แม้จะไม่มีภาพของเธอบนหน้าหนังสือพิมพ์แต่ชื่อของเธอยังคงปรากฏอยู่เสมอในการสนทนาการตั้งคำถามในดวงตาของผู้หญิงที่ถูกตัดสินเพราะอดีตในความรู้สึกของแม่ที่ถูกพรากลูกในหัวใจของคนธรรมดาที่รู้ว่าบาง ครั้งความอดทนคือการเปล่งแสงที่สุดในความมืดคนที่เดินผ่านไฟโดยไม่เผาพูดผู้อื่นคือคนที่ใจแข็งแรงที่สุดและศรีรัตน์คือหนึ่งในนั้นไม่มีเสียงไม่มีตำแหน่งแต่มีอิทธิพลแบบเงียบที่ฝังลึกในจิตใจสังคมศรีรัตน์อาจไม่มีเวทีให้พูดแต่เธอมีเรื่องราวที่โลกยังคงพูดถึงแม้เธอจะเงียบงันผู้หญิงบางคนไม่ได้เขียนชื่อไว้ในประวัติศาสตร์แต่ทิ้งร่องรอยไว้ในหัวใจของผู้คนศรีรัตน์อาจไม่ใช่สตรีผู้ยิ่งใหญ่ตามขนกเธอไม่ได้จารึกชื่อในตำราหลวง ไม่มีรูปปั้นไม่มีวันเฉลิมไม่มีบทเพลงสะดุดีแต่สิ่งที่เธอทิ้งไว้กลับมีพลังมากกว่าสิ่งใดพลังที่ไม่ต้องใช้เสียงพลังที่ไม่ต้องมีอำนาจพลังที่เรียกว่าความเข้มแข็งแบบเงียบงันศรีรัตน์ไม่ได้สู้เพื่อให้ใครเห็นใจไม่ได้พูดเพื่อให้ใครเข้าใจแต่เธออยู่ต่อแม้จะไม่มีใครเรียกชื่อในยุคที่ใครๆก็พูดมากขึ้นโต้แย้งมากขึ้นผู้หญิงคนนี้กลับเลือกที่จะเงียบและนั่นคือความกล้าหาญรูปแบบหนึ่งเพราะการเงียบในโลกที่ทุกคนส่งเสียง คือการเดินสวนทางอย่างมีศักดิ์ศรีเรื่องราวของศรีรัตน์ไม่ได้พูดถึงแค่เธอแต่มันสะท้อนสิ่งที่สังคมไทยเคยมองคนเราตัดสินจากภาพถ่ายจากข่าวจากตำแหน่งแต่เราเคยฟังใจของผู้หญิงคนหนึ่งหรือไม่ศรีรัตน์ไม่ได้ล้มเหลวแต่เธอถูกทำให้ดูเหมือนล้มเหลวในขณะที่ความอดทนและความเข้มแข็งของเธอกลับเติบโตในความเงียบและเบ่งบานในหัวใจของผู้คนทีละน้อยในวันนี้แม้เธอจะไม่อยู่ในพื้นที่สื่อแต่ชื่อของเธอยังถูกพูดถึงไม่ใช่ด้วยเสียงเยาะเย้ยแต่ด้วยคำถามไม่ ใช่ด้วยคำพิพากษาแต่ด้วยความเข้าใจและในความเข้าใจนั้นเราจึงเริ่มมองเห็นมรดกที่เธอทิ้งไว้มรดกของความอดทนมรดกของการรู้คุณค่าตัวเองแม้ไม่มีใครเห็นมรดกของผู้หญิงธรรมดาที่เคยมีชีวิตไม่ธรรมดาเลยผู้หญิงที่ไม่ได้เปล่งเสียงไม่ได้แปลว่าเธอไม่มีอะไรจะพูดเธอเพียงแค่เลือกจะพูดด้วยการมีชีวิตอยู่อย่างสมศักดิ์ศรีศรีรัตน์อาจเป็นเงาในเรื่องเล่าของราชสำนักแต่ในใจของคนจำนวนมากเธอคือแสงสว่างเงียบงามที่ยังคงส่องทางให้ผู้หญิงคนอื่นได้ยืน หยัดในแบบของตัวเองและหากคุณกำลังเผชิญกับวันที่มืดมนขอให้คุณระลึกว่าคุณไม่จำเป็นต้องตะโกนเพื่อจะยิ่งใหญ่คุณแค่ต้องยืนอยู่กับความจริงของตัวเองให้ได้ขอจบเรื่องราวของศรีรัตน์สุวดีไว้เพียงเท่านี้แต่พลังของเธอจะไม่จบลงตามคำพูดนี้เพราะมันจะยังอยู่ในความเงียบของผู้หญิงอีกมากมายในโลกนี้เรื่องราวทั้งหมดนี้ได้รับการเรียบเรียงและบรรยายโดยทีมงานแวงแองChannelเราจะยังคงติดตามและนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดเพื่อส่งต่อความ

เปิดเบื้องลึกท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี | เรื่องจริงที่อาจนำเธอกลับสู่ตำหนักอีกครั้ง? Read More

งานเลี้ยงวันเกิดราชินีสุทิดา สุดอลังการ แสดงอำนาจเด็ดขาด

ท้องฟ้าไปเลยวันนี้เวลา17:42นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวังในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีวันที่3มิถุนายน2566เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงฌานหน้าพระอุโบสถบรรพชิตจีนและญวนถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีจากนั้นเสด็จเข้าพระอุโบสถพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงจุดเทียนพระมหามงคล1คู่ที่ตั้งอยู่บนธรรมาสน์ศิลาเทียนเข้าพระองค์ในตู้ข้างธรรมาสน์ด้านพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกและด้านพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสร็จแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางกระทงดอกไม้บนพานหน้าฐานทุกขีทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการไทยที่นั่งแล้วทรงจุดเทียนห่วงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทายที่นั่งบูชาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกและพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจากนั้นทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่น่าทำมากศิลา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้องถิ่นที่น่าทำม่านศิลาเสร็จแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีทรงจุดเทียนที่โต๊ะน่าอาจสูงพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เทวดานพเคราะห์บนแท่นซึ่งตั้งอยู่ตรงพระทวารกลางและพระราชทานเงินแก่ข้าราชการผู้ทำหน้าที่โหรหลวงบูชาเทวดานพเคราะห์ต่อมาเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัยในพระบรมมหาราชวังพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพดลมหาสเวกรเทียนเท่าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพดลมหาเศวตฉัตรและธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปเทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ด้านพระราชอาจากนั้นสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพดลมหาเศวตฉัตรเทียนเข้าพระองค์ในตู้ข้างพระแท่นพระนพดลมหาสเวกธรรมแล้วทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปเทวรูปนพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ด้าน พระบรมวงศ์เสร็จแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการผ่านทอง2ชั้นบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัดรัชกาลที่9และพระพุทธรูปประจำพระชนม์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่หน้าพระแท่นพระนพดลมหาเศวตฉัตรสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิพย์สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกถวายศีลพระสงฆ์46รูปเจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาเมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถึง บทเสกน้ำพระพุทธมนต์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีทรงจุดเทียนที่ฝ่าพระครอบพระกริ่งอุบาเก่งทรงประเคนพระครอบพระกริ่งอุบาเก็งแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบแล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกสมเด็จพระราชาคณะพระราชาคณะเจ้าคณะรองและพระราชา คณะจนครบ46รูปจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีทรงหลั่งทักษิณโณทกพระสงฆ์ถวายอนุโมทนาถวายอดิเรกถวายพระพรลาแล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่เครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพดลมหาสเศวตฉัตรทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอนึ่งในวันนี้ทหาร3เหล่าทัพทำการยิงสรุปหลวงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา3มิถุนายน2566เพื่อเป็นมหามงคลโดยเริ่มที่มณฑลพิธีของสนามหลวง ซึ่งกองทัพบกโดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่1กรมทหารปืนใหญ่ที่1รักษาพระองค์ทำการยิงสะดุดหลวงจำนวน21นัดด้วยปืนใหญ่เบาแบบกระสุนวิถีราบแบบ80ขนาด75มิลลิเมตร4กระบอกด้านกองทัพเรือโดยฐานทัพเรือกรุงเทพฯทำการยิงสลดหลวงจำนวน21นัดเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษานักป้องวิชัยประเสริฐกองบัญชาการกองทัพเรือพระราชวังเดิมเขตบางกอกใหญ่กรุงเทพมหานครขณะที่กองทัพอากาศโดยกรมทหารต่อสู้อากาศยาน รักษาพระองค์โดยบัญชาการอากาศยานทำการยิงสรุปหลวงจำนวน21นัดเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาณลานอเนกประสงค์โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทร์ท่ากษัตริยาธิราชเขตบางเขนกรุงเทพฯและต่อมาเสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชาณพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามในการนี้เสด็จขึ้นชานนอกพระอุโบสถทรงจุดเทียนร่วมบูชาพระรัตนตรัยต่อจากนั้นพลอากาศโทภักดีแสงชูโตรักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองพระราชพิธีต้นทุน ละอองธุลีพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเทียนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดไฟจากโคมไฟฟ้าและพระราชทานเพื่อเชิญไปถวายเจ้าอาวาสจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัยตามพระอารามหลวงที่ได้ทรงพระราชอุทิศไว้จากนั้นรักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองพระราชพิธีเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททูลกระหม่อมถวายเทียนชนวนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดไฟจากโคมไฟฟ้าแล้วทรงถือเทียนนั้นไว้เจ้าพนักงานข่มเทียนมาขอพระราชทานจุดไฟสำหรับส่งถึงเมื่อการเสด็จพระราชดำเนินเวียนเทียนประทักษิณพระ อุโบสถจากนั้นพระราชวงศ์และข้าราชการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทขอพระราชทานต่อเทียนที่ทรงถือแล้วพระราชทานเทียนชนวนนั้นให้เจ้าพนักงานสนมพลเรือนรับไปทรงกราบที่พระแท่นแล้วทรงนำสวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยจบแล้วทรงรับคมเทียนจากเจ้าพนักงานศุภลักษณ์ทรงพระดำเนินเลี้ยวขวาเวียนรอบพระอุโบสถครบรอบแล้วเสด็จขึ้นชั้นหน้าพระอุโบสถทรงกราบที่พระแท่นแล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถเสด็จพระราชดำเนิน

งานเลี้ยงวันเกิดราชินีสุทิดา สุดอลังการ แสดงอำนาจเด็ดขาด Read More

ความรักที่สวยงามระหว่างราชินีสินีนาฏและท่านผู้หญิงศรีรัศมีสุวดี

โน้ท[เพลง]และเรื่องราวการพ้นจากฐานันดรศักดิ์ของท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์กับอดีตเจ้าคุณพระสินีนาฎทั้งสองท่านนี้ต่างกันอย่างไรเรื่องราวของทั้งสองท่านนี้ต่างกันอย่างไร1ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ไม่ได้มีความผิดใดๆแต่ถ้าลาออกเองเนื่องจากญาติของท่านทำความผิดต่อราชสำนักและกฎหมายบ้านเมืองดังนั้นการที่ท่านจะได้กลับมาอีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายใดๆและไม่มีมลทินในๆอีกด้วยเพราะหลังจากที่ท่านลาออกแล้วท่านก็เก็บตัวและปฏิบัติธรรมที่บ้าน และบางครั้งท่านก็ไปต่างประเทศซึ่งเป็นศิษย์ของท่านจะพึงทำได้2ส่วนความผิดของอดีตเจ้าคุณพระสินีนาฎนั้นร้ายแรงมากหากจะเทียบกับท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ก็คนละขั้วคนละแนวเลยย้อนหลังไปในอดีตวันที่ท่านผู้หญิงลาออกจากฐานันดรศักดิ์นั้นก็เป็นเพราะเหตุการณ์จากญาติของท่านดังนี้ราชกิจจานุเบกษาประกาศเรื่องพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์แล้วพล เอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีเป็นผู้สนองพระบรมราชโองการด้านคดีชาการหรือYuriภาคภูมิและณัฐพลหรือกอล์ฟสุวะดีโดนแจ้งข้อหา112เพิ่มอีกคดีหลังนายชาการเอาหนังสือรับรอง3ฉบับเซ็นชื่อนายณัฐพลไปเป็นหลักฐานว่าติดภารกิจสำคัญทำให้เข้าเรียนตามกำหนดของหลักสูตรปริญญาโทนิด้าไม่ครบจนมหาวิทยาลัยยอมพรพรรณให้เข้าสอบพนักงานสอบสวนสน.ลาดพร้าวตามไปแจ้งข้อหาถึงในคุกแล้วขณะที่โฆษกตำรวจจากการสอบสวนคดีเครือข่ายพงษ์พัฒน์อดีตผบช.กอเริ่มงวดเตรียมประชุมสรุปสำนวนส่ง ให้อัยการฟ้องผู้ต้องหาส่วนการพิจารณาความผิดวินัยร้ายแรงที่จะเรดำเนินการน่าจะเสร็จแล้วเมื่อวันที่12ธันวาคมราชกิจจานุเบกษาฉบับทะเบียนฐานันดรประเภทขอเล่มที่131ตอนที่29ขอไข่12ธันวาคม2557ประกาศเรื่องลาออกจากฐานันดรศักดิ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหิตลาธิเบศรรามาธิบดีจักรีนฤบดินทรทอนสยามินทราธิราชบรมนาถบพิตรมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่าพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์องค์ กรสยามมกุฎราชกุมารได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์สยามมกุฎราชกุมารเป็นลายลักษณ์อักษรว่าว่าขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้วพระราชทานพระบรมราชานุญาติประกาศณวันที่11ธันวาคมพุทธศักราช2557เป็นปีที่69ในรัชกาลปัจจุบันผู้รับสนองพระบรมราชโองการพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทลายเครือข่ายพลตำรวจโทพงษ์พัฒน์ฉายาพันธุ์อดีตผบช.กอและพวก พร้อมตรวจค้นทรัพย์สินจำนวนมากแจ้งข้อหาฉกรรจ์ทั้งแอบแฝงเรื่องสูงเรียกรับส่วยน้ำมันเถื่อนบ่อนการพนันไปจนถึงอุ้มทวงหนี้ในส่วนของคดีที่หมอมโนวัดพระยาไกรที่กลุ่มผู้ต้องหากลุ่มผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าหนี้ไปข่มขู่ให้ยอมลดดีกว่า120ล้านบาทเหลือ20ล้านบาทชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้เกือบหมดแล้วเหลือนายนพพรศุภพิพัฒน์อายุ43ปีเศรษฐีหมื่นล้านผู้จ้างวานที่หลบหนีไปต่างประเทศขณะที่พนักงานสอบสวนสน.พระโขนง ออกหมายจับผู้จ้างวานแล้วอยู่ระหว่างติดต่อเข้ามอบตัวล่าสุดตำรวจจับกุมนางสุดาทิพย์ม่วงนวลหลานสาวพลตำรวจโทพงษ์พัฒน์ดำเนินคดีข้อหา112แอบแฝงเรื่องสูงให้ได้งานประมูลเครื่องเสวยและอาหารในครัวข้าราชบริพารพระที่นั่งอัมพรสถานและวังศุโขทัยความคืบหน้าจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลเมื่อเวลา16:30นวันที่12ธันวาคมพลตำรวจโทศรีวรารามสอบถามมะนะกุลเพราะปชช.พลตำรวจตรีสมบัติมิลินทจินดาเพราะบก.สส.บช.พลตำรวจตรีวิสูตรฉัตรชัยเดชเพราะบก.น6และพลตำรวจเอกวิทวัสชินคำ ผู้กำกับการสน.ลาดพร้าวร่วมแถลงข่าวกรณีพนักงานสอบสวนสน.ลาดพร้าวดำเนินคดีนาชาการหรือYuriภาคภูมิอายุ34ปีและนายณัฐพลREกอล์ฟสุวะดีอัครพงศ์ปรีชาอายุ29ปีข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นพระมหากษัตริย์พระราชินีรัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามความผิดมาตรา112กรณีแอบอ้างเรื่องสูงพันตำรวจเอกวิทวัสชินคำผู้กำกับการสน.ลาดพร้าวกล่าวว่าตามที่พลตำรวจโทศรีวราสั่งการให้สน.ลาดพร้าวตรวจสอบการกระทำผิดมีตรา112เหตุเกิดที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์นิด้าถนน เสรีไทยแขวงคลองจั่นเขตบางกะปิกทมพฤติการณ์ของคดีนี้คือนายชาการเป็นนักศึกษาภาคพิเศษหลักสูตรการจัดการภาครัฐและภาคเอกชนคณะรัฐประศาสนศาสตร์ของสถาบันดังกล่าวเข้าเรียนตั้งแต่ปี2556จะเรียนทั้งหมด6ชั่วโมงจำนวน6ครั้งครั้งที่7เป็นการสอบต้องมีเวลาเรียนทั้งหมดร้อยละ80สามารถฆ่าเรียนได้เพียงครั้งเดียวแต่นายชาการค้าเรียนทั้งหมด3ครั้งจึงนำหนังสือทั้งหมด3ฉบับลงชื่อโดยนายณัฐพลมายื่นที่คณะรัฐประศาสนศาสตร์แจ้งว่าในชาการค้าเรียนเพราะมีภารกิจติดตามดูแลบุคคล สำคัญการยื่นหนังสือทำให้ได้10จากทางมหาวิทยาลัยให้เข้าสอบซึ่งตามจริงจะต้องตกในดังนั้นผู้กำกับการสน.ลาดพร้าวกล่าวต่อว่าเมื่อตรวจสอบกับทางมหาวิทยาลัยแล้วจึงประสานไปที่กองบังคับการปราบปรามและพลตำรวจโทศรีวราเมื่อต้นเดือนธันวาคมพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานพบว่ามีการกระทำความผิดดังกล่าวจริงก่อนขออนุมัติหมายจับจากศาลทหารกรุงเทพพร้อมทั้งแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้งสองคนแล้วที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพจาก การสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง2คนทราบว่านายรัฐพลเป็นคนลงนามเซ็นชื่อในหนังสือทั้ง3ฉบับอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องและให้การปฏิเสธส่วนในชาการให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเป็นคนเซ็นชื่อทำหนังสือและยื่นหนังสือดังกล่าวด้วยตัวเองโดยไม่ได้พาดพิงคนอื่นแต่อย่างใดใช้เวลาสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดนานกว่า2ชั่วโมงถามว่าจะดำเนินคดีนายชาการทีเดียวหรือไม่พันตำรวจเอกวิทวัสกล่าวว่าเป็นเพียงคำให้การของผู้ต้องหาอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง2คนแต่จะสืบสวนสอบสวนให้ถึงที่สุดส่วนทางมหาวิทยาลัยส่งตัวแทนมาสอบสวนเป็นพยานส่วนการแจ้งความสน.ลาดพร้าวเป็นผู้แจ้งข้อหาด้านพลตำรวจโทศรีวราห์รังสิพราหมณกุลเพราะประชาชนกล่าวว่าขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีกับความผิดลักษณะดังกล่าวทันทีโดยเฉพาะความผิดเข้าหาตามมาตรา112และทุกคดีอย่างเด็ดขาดส่วนคดีอื่นๆอย่างกรณีสนสามเสนได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้วคาด ว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีได้ภายในเร็ววันส่วนคดีอื่นๆหากมีจะทำไปเรื่อยๆส่วนการอายัดตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในพื้นที่อื่นๆที่สภ.คลองหลวงได้อายัดตัวผู้ต้องหาไว้หมดแล้วหากพาดพิงหรือเชื่อมโยงถึงใครทุกคดีจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไปส่วนกรณีนายณรงค์กรหรือโจเทียนเสริมสินอายุ41ปีน้องชายเสี่ยโจ้นายสหชัยเจียนเสริมสินผู้ต้องหาหนีคดีปลอมแปลงเอกสารจังหวัดปัตตานีจ่ายสวยน้ำมันเถื่อนเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมว่าว่ามีนายตำรวจระดับผู้ กำกับการสังกัดตำรวจน้ำคมครูเสียโจ้พลตำรวจโทศรีวราเก่าว่ายังอยู่ระหว่างการตรวจสอบส่วนการตรวจสอบหลักฐานที่ได้รับมาเอกสารการโอนเงินที่เป็นใบสลิปการโอนเงินที่นายณรงค์กรมอบให้นั้นมีจริงแต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าใบสลิปการโอนเงินดังกล่าวเป็นใบสลิปการโอนเงินค่าอะไรต้องตรวจสอบรายละเอียดของผู้เกี่ยวข้องอีกครั้งผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าหนังสือที่นักวิชาการยื่นให้ทางคณะทั้ง3ฉบับเป็นหนังสือตราครุฑส่วนราชการบันทึกข้อความ ไม่ได้ระบุวันที่แน่ชัดแต่ระบุว่าช่วงเดือนกรกฎาคมเรื่องรับรองการปฏิบัติราชการเรียนถึงคณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์เรื่องด้วยนายชาการได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นเลขานุการประจำตัวมีภารกิจในการติดตามดูแลบุคคลสำคัญในวันอาทิตย์ที่22มิถุนายนพุทธศักราช2557วันอาทิตย์ที่29มิถุนายนพุทธศักราช2557และวันอาทิตย์ที่6กรกฎาคมพุทธศักราช2557จึงไม่สามารถเข้าเรียนวิชาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการระบุชื่ออาจารย์ ประจำวิชาและยังระบุข้อความให้นายณัฐพลยืนยันว่าในชาการติดปฏิบัติราชการจนไม่สามารถผู้เรียนได้ดังกล่าวนายณัฐพลหรือกอล์ฟและนายชาการร่วมกับพวกรวม7คนแอบอ้างสถาบันก่อเหตุการณ์โชคทรัพย์พวงนี่ผู้เสียหายจำนวน37ล้านบาทเหตุเกิดท้องที่สนพระโขนงและร่วมกับพวกรวม11คนบังคับคุณครูให้ผู้เสียหายรถนี่มูลค่าเสียหายจาก120ล้านบาทเหลือเพียง20ล้านบาทเหตุเกิดท้องที่สนวัดพระยาไกรถูกดำเนินคดีข้อหามาตรา112และข้อหาอื่นรวม4ข้อหานอกจากนี้นายชาการยังร่วมกับพวก แอบอ้างเบื้องสูงเข้าแทรกแซงกิจกรรมธุรกิจโรงน้ำแข็งภายในตลาดไทยจังหวัดปทุมธานีจำหน่ายน้ำแข็งตัดราคาผู้เสียหายเซ็งจากผู้ประมูลกิจการได้มูลค่า24ล้านบาทเพื่อส่งน้ำแข็งในตลาดไทผูกขาดเพียงรายเดียวก่อนถูกกลุ่มผู้ต้องหาพบกิจการไปเสียงไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สภ.คลองหลวงและล่าสุดเหตุเกิดท้องที่สนลาดพร้าวถูกดำเนินคดีตามความผิดมาตรา112ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติพลตำรวจโทประวุฒิถาวรศิริโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพบอีกหนึ่งคดี คือการไปแอบอ้างชื่อสถาบันนิด้ากรณีนายชาการภาคภูมิซึ่งเรียนอยู่และค่าเรียนจึงให้นายรัฐพลสุวะดีทำหนังสือไปว่านายชาการมาปฏิบัติภารกิจกับตนแอบอ้างว่าเป็นพระอนุชาซึ่งออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง2คนเพิ่มข้อหาทำให้เสื่อมเสียเป็นหมายจับจากศาลทหารเนื่องจากเป็นเหตุที่เกิดขึ้นหลังจากรัฐประหารคดีดังกล่าวแจ้งความไว้ที่สน.ลาดพร้าวช่วงต้นเดือนธันวาคมกรณีดังกล่าวเป็นการออกหมายจับและมีคดีอาญาติดตัวเพิ่มหลังจากนี้ในส่วนที่เป็นคดีมาตรา ม112เมื่อสรุปสำนวนแล้วค่ะส่งมาให้คณะกรรมการพิจารณาคดีมินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการพิจารณาเพื่อสั่งฟ้องพลตำรวจโทประวุฒิกล่าวต่อไปว่าส่วนคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่สนพระโขนงและสนวัดพระยาไกรพนักงานสอบสวนส่งสำนวนมาให้คณะกรรมการแล้วเมื่อวันที่8ธันวาคมหลังจากนี้ไม่น่าเกิน10วันจะส่งฟ้องได้ส่วนจะออกมาเรียกหมายจับใครเพิ่มเติมหรือไม่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาและรวบรวมหลักฐานการขยายผลมีขั้นตอนการดำเนินการหลายมิติ อาจทำให้ไปเจอผู้ร่วมกระทำความผิดเพิ่มได้ทุกอย่างเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามพยานหลักฐานส่วนความคืบหน้าของพันตำรวจโททรงรักขุนศรีรองผู้กำกับการ6บก.ปขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการติดตามตัวถ้ายังไม่มาจริงอ่ะเอ่อออกมาเรียกอีก1ครั้งถ้ายังไม่มาพบเจ้าหน้าที่ที่จะต้องออกหมายจับขณะนี้ยังติดตามตัวอยู่ตลอดแต่ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรเนื่องจากเป็นตำรวจที่ทำงานลับๆจึงมีความชำนาญในการซ่อนตัวจะดำเนินการควบคู่กับทางวินัยส่วนกรณีการ สอบสวนวินัยร้ายแรงของพลตำรวจโทพงษ์พัฒน์ฉายาพันธุ์อดีตผบช.กอพร้อมพวกที่เป็นข้าราชการจเรตำรวจน่าจะมีความเห็นแล้วขอเวลาตรวจสอบอีกครั้งด้านนายภูษิตหิรัญพฤกษ์เจ้าหน้าที่งานป่าไม้อาวุโสสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่ากรมป่าไม้นำกำลังพร้อมรถบรรทุก5คันระดมขนย้ายไม้แปรรูปของกลางคดีเครือข่ายพลตำรวจโทพงษ์พัฒน์ฉายาพันธุ์อดีตผบช.กอสุขซ่อนไว้ในโกดังหลังสระวงอพาร์ตเมนต์เลขที่16/21หมู่2ถนนแจ้งวัฒนะณตำบลคลองเกลืออำเภอปากเกร็ดจังหวัด นนทบุรีในผู้สิทธิ์เผยว่าจะขนย้ายไม้แปรรูปที่ตรวจยึดเป็นของกลางทั้งหมดในคดีพลตำรวจโทพงษ์พัฒน์ไปเก็บรักษาไว้ที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้อุบลกกตำบลลำไทรอำเภอวังน้อยจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม้ของกลางทั้งหมดมีกว่า4000แผ่นคาดว่าต้องใช้เวลาคนย้ายประมาณ4-5วันจากนั้นจะเข้าขนย้ายไม้แปรรูปของกลางในคดีเดียวกันที่บ้านอีกหลังของพลตำรวจโทพงษ์พัฒน์เลขที่50ทับ962ถึง3หมู่9หมู่บ้านเมืองทองธานีซอยA2ถนนแจ้งวัฒนะตำบลบางพูดอำเภอปากเกร็ดและที่บ้านญาติพล ตำรวจโทพงษ์พัฒน์ที่อำเภอบางใหญ่จังหวัดนนทบุรีต่อไปส่วนอดีตเจ้าคุณพระสินีนาฎซึ่งได้ดำรงตำแหน่งนี้เพียง68วันก็ต้องถูกปลดฟ้าผ่าเพราะความผิดดังวันนี้วันที่21ตุลาคมราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการประกาศเรื่องให้ข้าราชการในพระองค์ไฟล์ทหารพ้นจากตำแหน่งถอดฐานันดรศักดิ์และยศทหารตลอดจนเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชั้นตราความว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชดีศรีศิลป์มหาวชิราลงกรณ์พระวชิระ9เจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารพ้นจากตำแหน่งถอดฐานันดรศักดิ์และยศทหารตลอดจนเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชั้นตราเนื่องจากกระทำความผิดราชสวัสดิ์และไม่จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์จากคุณพระสิรินาถพิลาสกัลยาณีประพฤติตนต่อต้านงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในการสถาปนาสมเด็จพระนางเจ้ามีพระบรมราชินีหลังจากที่ได้ทรงประกอบพิธีราชาภิเษกสมรสเมื่อวันที่1พฤษภาคม2562โดยได้แสดงตนต่อต้านและกดดันทุกวิถีทางเพื่อจะไม่มีการสถาปนาสมเด็จพระ นางเจ้าพระบรมราชินีขึ้นทรงดำรงตำแหน่งแต่จะให้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมตนเองขึ้นดำรงตำแหน่งแทนตามที่ได้ตั้งความหวังไว้แต่การไม่เป็นไปตามที่มุ่งหวังหลังจากพระราชพิธีผ่านพ้นไปแล้วด้วยความทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูงจึงได้พยายามหาหนทางในการดำเนินการด้วยวิธีการต่างๆเพื่อให้ได้มาซึ่งการสถาปนาตำแหน่งของตนเองนอกจากนี้เจ้าคุณพระสินีนาฎอย่างได้ล่วงละเมิดพระราชอำนาจสั่งการในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถด้วยเหตุนี้เพื่อเป็นและลดปัญหาหรือการกระทำใดๆที่ไม่เหมาะสมอันมีผลกระทบต่อสถาบันและส่วนรวมของประเทศชาติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาให้ขึ้นเป็นเจ้าคุณพระสินีนาฎพิลาสกัลยาณีด้วยทรงวางพระราชหฤทัยว่าจะลดแรงกดดันและปัญหาอันอาจจะเกิดขึ้นที่จะส่งผลกระทบต่อสถาบันหลังจากนั้นได้ส่งเฝ้าติดตามความประพฤติและการปฏิบัติของเจ้าคุณพระสินีนาฎมา อย่างต่อเนื่องจึงได้ทรงทราบว่าเจ้าคุณพระสินีนาฎมิได้มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและประพฤติตนให้เหมาะสมกับตำแหน่งอีกทั้งยังไม่พอใจในตำแหน่งที่ได้รับพระราชทานอย่างกระทำการทุกประการที่จะเทียบเท่าสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีไม่มีความเข้าใจในขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของราชสำนักแสดงความกระด้างกระเดื่องต่อพระบาทสมเด็จที่อยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีตลอดจนใช้ประโยชน์จากตำแหน่งในการดำเนินการสั่งการแอบอ้างพระราชกระแสไปกระทำการหรือสั่งการ ให้บุคคลต่างๆปฏิบัติตามคำสั่งของตนเองโดยตนเองไม่ต้องรับผิดชอบอ้างว่าได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำเนินการแทนพระองค์ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดในฐานะตำแหน่งของตนถือได้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์ส่วนตนโดยตรงให้เกิดความนิยมชมชอบอันนำไปสู่สิ่งที่ตนคาดหวังไว้ไม่ใช่เพื่อส่วนรวมโดยแท้จริงเพราะมุ่งหวังที่จะให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสถาปนาตนเองให้สูงขึ้นเทียบเท่าสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี การกระทำของเจ้าคุณพระศรีนีน่าดังกล่าวถือได้ว่าไม่ถวายพระเกียรติขาดความกตัญญูไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงมีความแตกแยกในหมู่ข้าราชบริพารก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชนคือเป็นการบ่อนทำลายประเทศชาติและสถาบันจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าคุณพระสินีนาฎพิลาสกัลยาณีพ้นจากตำแหน่งข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารถอดฐานันดรศักดิ์และยศทหารตลอดจนเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชั้นตราอาศัยอำนาจตามความในมาตรา9 และมาตรา15ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช2560ประกอบมาตรา4และมาตรา9แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์พุทธศักราช2560และมาตรา10มาตรา13และมาตรา15แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์พุทธศักราช2560และมาตรา12ของพระมีบัญญัติยศทหารพุทธศักราช2479จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าคุณพระสิหน้าพิลาสกัลยาณีพ้นจากตำแหน่งข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารถอดฐานันดรศักดิ์และยศทหารตลอดจนเรียกคืน …

ความรักที่สวยงามระหว่างราชินีสินีนาฏและท่านผู้หญิงศรีรัศมีสุวดี Read More

กรมหลวงทีปังกร ทรงสู้หนัก เตรียมต้อนรับ ศรีรัศมิ์ กลับมา

เมื่อเร็วๆนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปร่วมงานอย่างสม่ำเสมอเจ้าชายทีปังกรพระราชโอรสของพระองค์ก็เสด็จกลับมายังประเทศไทยจากอังกฤษพระองค์เจ้าทีปังกรทรงรอวันนี้มานานแล้วและทรงหวังมานานแล้วว่าพระองค์จะได้เป็นมกุฎราชกุมารดังนั้นเมื่อเจ้าทีปังกรทรงแสดงผลงานได้ดีมากในงานแรกพระองค์จึงทรงเข้าร่วมภายหลังเสด็จกับประเทศไทยแต่ไม่นานเขาก็เกิดความสับสนระหว่างทำกิจกรรมกลุ่มเราสงสัยว่าเหตุใดการแสดงของสมเด็จเจ้าฟ้าถีปังกร จึงมีความแตกต่างกันอย่างมากสื่อไทยได้โพสต์ภาพถ่ายหลายภาพทั้งเจ้าฟ้าทีปังกรและศรีรัตน์ภาพถ่ายเหล่านี้ทำให้เราสัมผัสถึงอารมณ์ของเจ้าชายทีปังกรได้อย่างคลุงเครือกิจกรรมเดี่ยวครั้งแรกของเขาคือการสวดภาวนาให้แม่ของเขาการกระทำเหล่านี้ทำให้เขาทำมาหลายครั้งแล้วตั้งแต่ยังเป็นเด็กดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับมันมากกิจกรรมต่อมาคือกิจกรรมในราชวงศ์เขาเองก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับกิจกรรมเหล่านั้นเช่นกันกรมหลวงทีปังกรทิ้งพระมารดาเมื่อพระองค์มีพระชนมมายุเพียง9 พรรษารัตไม่มีโอกาสเดินทางออกจากประเทศไทยแต่เธอรู้ดีถึงชะตากรรมของเจ้าชายทีบังกรภายหลังจากไปศรีรัตมิจึงเลือกที่จะยอมรับคำสั่งกับบริเวณของพระรามศิษกรมหลวงผีปังกรไม่ได้เมื่อเข้าใจถึงความเสียสละของแม่ในตอนนั้นเขาจึงเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้เมื่อเขาโตขึ้นและอ่อนไหวมากขึ้นเท่านั้นกรมหลวงทีปังกรจึงทรงกังวลถึงสถานการณ์ของพระมารดาเป็นอย่างมากและทรงหวังว่าจะสามารถช่วยเหลือศรีรัตน์ได้โดยเร็วที่สุดเขามักจะสวดพภาวนาเพื่อแม่ ของเขาเสมอเมื่อไปวัดการกระทำชุดนี้ฝังอยู่ในใจซึ่งหมายความว่าเจ้าชายทีบังกรไม่มีความตั้งใจที่จะแข่งขันชิงบัลลังก์หากไม่ช่วยแม่ของเขาเป็นเวลานานแล้วที่ศรีรัตน์มีจากราชวงศ์ไปอดีตเจ้าหญิงยังคงได้รับการยอมรับจากหลายๆคนขณะนี้คาดว่าเจ้าฟ้าถีบังกรจะขึ้นเป็นมกุฎราชกุมารในอนาคตผู้สนับสนุนศรีรัตน์ได้เริ่มดำำนการใหม่ด้วยตนเองเราเห็นภาพของศรีรัตน์และเจ้าชายทีบังกรโพส์มากขึ้นเรื่อยๆและยังมีรูปภาพของเจ้าชายทีปังกรและศรีรัตน์อีกมากมาย แม้จะไม่ได้เจอกันนานแต่เจ้าชายทีปังกรไม่เคยลืมแม่ของฉันนั่นคือข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของเขาเจ้าชายทีปังกรไม่มีเจตนาร้ายใดๆความคิดของเขาตั้งแต่แรกคือต้องการให้มารดากลับคืนสู่ราชวงศ์เราจึงเห็นว่าเจ้าชายทีปังกรคุ้นเคยกับวัดมากแต่เขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับวัดมากนักกิจกรรมพระราชกรณียกิจอื่นๆเมื่อเห็นเหตุการณ์คุ้นเคยเมื่อเห็นพระภิกษุที่เคารพนับถือเจ้าชายีปังกรก็มั่นใจและเมื่อไปปรากฏตัวในพิธีที่แปลกมากสำหรับพระองค์เจ้าชาย ทีปังกรก็กลับมาน่ารักอีกครั้งรัชกาลที่10หวังอยู่เสมอว่าเจ้าีังกรจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จึงคิดหาวิธีให้กำลังใจเจ้าฟ้าทีปังกรหลายวิธีแต่น่าเสียดายที่การกระทำเหล่านี้ไม่ได้ผลเท่าที่ควรหลังจากที่รัชกาลที่10ทรงเห็นว่าเจ้าทีปังกรไร้ความสามารถจึงทรงเริ่มขอให้เจ้าหญิงพัดลาดูแลน้องชายคนนี้น่าเสียดายที่จิตใจของเจ้าชายทีปังกรไม่อยู่ที่นี่บางทีเขาอาจลืมสิ่งหนึ่งนั่นคือถ้าคุณต้องการช่วยเหลือศรีรัตน์ิต้องขึ้นเป็นกษัตริย์ของ ไทยในอนาคตปัจจุบันเจ้าชายทีปังกรคิดแต่เพียงว่าจะช่วยแม่ของเขาเท่านั้นแต่เขาคิดวิธีที่ดีที่สุดไม่ได้แน่นอนว่าเป็นไปได้เช่นกันที่พระองค์เจ้าทีปังกรไม่เข้าใจจริงๆในสถานการณ์เช่นนี้คราวนี้พระองค์เจ้าีบปังกรเสด็จกรับประเทศไทยนอกจากจะได้เห็นความกตัญญูของเขาแล้วเรายังชื่นชมสภาพจิตใจของเขาทั้งสูงและต่ำอีกด้วยเจ้าชายทีปังกรมักจะให้ผู้คนมองว่าเขาน่ารักไม่น้อยแม่ของเขารีรัตน์ทิ้งเขาไปตั้งแต่อายุเพียง9ขวบจากนั้นเจ้าชายทีปังกรก็ ถูกส่งไปศึกษาต่อที่ประเทศเยอรมนีปัจจุบันเรียกได้ว่าพระองค์มีชื่อเสียงที่สุดสมาชิกของกลุ่มราชวงศ์ไทยที่ไม่มีรากฐานสมเด็จพระนางเจ้าสุธิดาเสด็จไปเยอรมณีหลายครั้งเพื่อเยี่ยมเจ้าชายน้อยเมื่อยังทรงสถิตอยู่กับรัชกาลที่10ขณะนั้นสมเด็จพระนางเจ้าสุทธิดาทรงเชื่อว่าคงเป็นเรื่องยากที่เจ้าฟ้าทีปังกรจะเป็นเศรษฐีด้วยเหตุนี้สมเด็จพระนางเจ้าสุธิดาจึงทรงสนับสนุนพระองค์เจ้าภัชรกิตติยาภาสภาพร่างกายของพระราม10ไม่ค่อยดีนักสมเด็จพระนางเจ้าสุธิดาจึงทรงเร่งดำเนิน การใช้ประโยชน์จากพระรามทั้งคู่ยังสรวงชุดที่ดีที่สุดในงานยงเปิดเผยดูเหมือนรัชกาลที่10จะพอใจกับการดำรงอยู่ของพวกเขาพอพระนางสุธิดาคิดว่าทำทุกอย่างเสร็จแล้วกรงพทีบังกรก็กลับมาแล้วจบเกมอย่างรวดเร็วพระนางสุธิดาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจในระดับนี้ใช่ไหมกรมหลวงทีปังกรไม่มีวันหยุดฤดูหนาวและไม่ใช่วันพระบรมราชานุสาวรีพระบาทสมดเดพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรหรือแม้แต่วันคล้ายวันเกิดรัชกาลที่10ดังนั้นในเวลานี้เจ้าฟ้าถีบปังกรจึงเสด็จ กลับประเทศไทยจุดประสงค์ของพระรามไทยเราจะค้นพบการเปลี่ยนแปลงบางประการคือแตกต่างไปจากปกติและรายละเอียดเล็กน้อยเล็กน้อยเหล่านี้จะบอกเราว่าเหตุใดเจ้าถีปังกรจึงกลับมาในขั้นตอนนี้

กรมหลวงทีปังกร ทรงสู้หนัก เตรียมต้อนรับ ศรีรัศมิ์ กลับมา Read More

ข่าวนี้สะเทือนพระราชวัง! ในที่สุด พระราชินีสินีนาฏ วงศ์วชิรภักดิ์ ก็ปรากฏตัวขึ้น

อย่าลืมข่าวสะเทือนวางเคยแล้วเจ้าคุณพระอยู่ไหนในคลิปนี้นะคะเราได้รวบรวมข่าวที่มีความน่าสนใจไหมชมกันสำหรับคลิปนี้นะคะสนับสนุนโดยข้าวเซเว่นเลก้ากาแฟอาราบิก้าแท้ที่ช่วยเผาผลาญไขมันด้วยแอลคาร์นิทีนสารสกัดจากถั่วขาวส้มแขกและคอลลาเจนไขมัน0%ช่วงด้วยทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็นให้คุณหุ่นสวยสุขภาพดีและฟรี5ซองเมื่อซื้อถุงใหญ่ราคาพิเศษ130095บาทสนใจแอดLineแอดทรายTodayShopเอาล่ะค่ะเรามาเริ่มข่าวที่น่ายินดีกันก่อนนะคะโดยภายหลังการ เสด็จพระราชดำเนินในการทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีณจังหวัดอุบลราชธานีขณะกำลังทำการบินจากท่าอากาศยานอุบลราชธานีได้เกิดสภาพอากาศแปรปรวนเกิดมีฝนฟ้าคะนองอย่างหนักเครื่องบินจะได้เจอผ่านนะที่ทั้งสองพระองค์ทรงทำการบินก็ได้หยุดรอและทรงพระกรุณาโปรดเกล้ารับสั่งให้เครื่องบินของสายการบินไทยแอร์เอเชียเที่ยวบินที่FD3370นำเครื่องลงสู่ท่าอากาศยานอุบลราชธานีไก่อนพระองค์ทรงเล็งเห็นว่า ถ้าหากให้เอเชียบินวนเราตามกฎของการบินสากลอาจจะเกิดปัญหาในการนำเครื่องลงจอดสู่ท่าอากาศยานได้ซึ่งโดยปกติแล้วนะคะตามกฎการบินสากลเครื่องบินอื่นๆที่กำลังทำการบินนะอากาศยานใดๆจะต้องให้เครื่องบินบุคคลสำคัญตั้งแต่พระมหากษัตริย์พระราชินีและพระบรมวงศานุวงศ์ประธานาธิบดีนายกรัฐมนตรีหรือบุคคลสำคัญทำการบินขึ้นบินหรือลงไก่อนตามหลักกฎการบินสากลจึงนับได้ว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าอย่างหาที่สุดมิได้ค่ะเข้าต่อไปนะคะก็เป็นเรื่องใหญ่ค่ะเมื่อหม่อมเจ้า เพิ่มเติมอยู่คนนายทหารพิเศษประจำกรมการหมายเลขราชวัลลภรักษาพระองค์[เพลง]ก็ได้โพสต์Facebookโดยเปลี่ยนภาพโปรไฟล์นะคะเป็นสีดำหลังจากงานพระราชพิธีวันฉัตรมงคลเมื่อไม่นานมานี้ว่าผมต้องขอโทษที่ไม่ได้เห็นหน้าผมเพราะวันนี้มีเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังมาบอกว่าผู้ใหญ่คงใหญ่โตของสำนักพระราชวังให้มาบอกว่าห้ามถ่ายรูปในห้องรับรองและให้ลบรูปออกจากFacebookเอาหน่อยเราผู้น้อยให้ลบก็ลบเดี๋ยวผู้ใหญ่ของสำนักพระราชวังคนนั้นจะ โกรธเอาเชื่อฟังหน่อยผมพูดน้อยแต่อย่างรู้ใครคือผู้ใหญ่คนนั้นสักวันหนึ่งท่านผู้ใหญ่ท่านนั้นจะรู้สึกว่ากูไม่ได้ใหญ่จริงมันเจ้าจุลเจิมยุคลผู้น้อยโดนอำนาจมืดจากข้างในวังสะแล้วเลยเอารูปมืดให้ดูการต่างหน้าโอ๋คะและสำหรับโพสของท่านนะคะก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางซึ่งจริงๆแล้วค่ะหม่อมเจ้าจุลเจิมยุคลนั้นท่านก็เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอนุสรมงคลการกับหม่อมอุบลยุคลณอยุธยาและเป็นพระนัดดาหรือหลาน ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่5ค่ะซึ่งจริงๆแล้วท่านก็เป็นพระญาติของรัชกาลที่10นะคะก็ไม่แน่ใจว่าหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจะมีการเคลียร์กันอย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ค่ะเค้าต่อไปนะคะคลิปโฆษณาที่ตกเป็นกระแสสำหรับคลิปของนาราเครปกระเทยกับลาซาด้าเตียงได้ว่าเป็นประเด็นราม่าร้อนแรงงานอย่างต่อเนื่องหลังโลกออนไลน์ได้เกิดกระแสติดattackแบนLazadaจัดฟอร์มe-commerceชื่อดังได้ออกแคมเปญลดราคาพิเศษในช่วงวัน ที่5เดือน5แต่เพราะว่าเน็ตไอดอลชื่อดังนาราหรือนาราเครปกระเทยและหนูรักที่ราพรชาวคูเวียงไปเป็นผู้แสดงโปรโมทแคมเปญดังกล่าวๆมีทั้งคลิปวิดีโอและภาพนิ่งก็กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงความไม่เหมาะสมจนชาวเน็ตรวมไปถึงร้านต่างๆในแต่ฟอร์มก็ได้ออกมาปิดบัญชีในระบบ[เพลง]รวมไปถึงต้องการลบApplicationด้วยล่าสุดค่ะโลกออนไลน์ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้งเมื่อผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นได้ออกมาเผยว่าได้รับอีเมล์ต่อกลับมาจากลาซาด้าให้ลูกค้าคอนเฟิร์ม การยืนยันการลบApplicationพร้อมขอความเห็นใจในการพัฒนาต่อไปค่ะซึ่งเรื่องก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้นะคะเพราะในขณะนี้รองปลัดกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นตัวแทนรับหนังสือจากนายศรีสุวรรณจรรยาเลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยที่ยืนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อขออำนาจศาลสั่งปิดเว็บไซต์แฟลตฟอร์มขายสินค้าที่มีการทำโฆษณาลักษณะล้อเลียนผู้พิการและพาดพิงสถาบันและล่าอ่ะค่ะพลเอกณรงค์พันธ์จิตต์แก้วแท้ผู้บัญชาการ ทหารบกได้สั่งการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกประจำวันพร้อมสั่งให้หน่วยทหารทั่วประเทศงวดสั่งสินค้าจากลาซาด้ารวมถึงห้างรถส่งสินค้าเข้ามาในพื้นที่หน่วยทหารแต่ไม่ห้ามกำลังพลในการสั่งซื้อสินค้าหากมีการสั่งก็ให้ออกไปรับนอกพื้นที่หน่วยทหารซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปคำว่าเรื่องนี้จะมีจุดจบอย่างไรและเขาล่าสุดกักแอนด์โรลแม็คเกรเกอร์Marshallได้โพสต์Facebookว่ามีแหล่งข่าวกล่าวว่าเจ้าพระสิหน้าที่ราชการไร้aniยังคงอยู่ที่ รามันดีหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีเสด็จกลับประเทศไทยเมื่อปลายเดือนธันวาคมซึ่งจริงๆแล้วในหลวงมีกำหนดเสด็จกลับMunichในเดือนมกราคมแต่เที่ยวบินพระราชทานนะก็ถูกเรื่องออกไปหลายครั้งและยังไม่มีหมายกำหนดการเสด็จกลับจึงทำให้เจ้าคุณรัชนีหน้าที่ราชการิญานียังคงงดออกงานทั้งนะค่ะอ่ะ[เพลง]

ข่าวนี้สะเทือนพระราชวัง! ในที่สุด พระราชินีสินีนาฏ วงศ์วชิรภักดิ์ ก็ปรากฏตัวขึ้น Read More