ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเจ้าฟ้าทีปังกรและท่านผู้หญิง ศรีรัศมี สุวดี

ก็สืบเนื่องมาจากหลังจากที่จะมีภาพของท่านศรีรัศมิ์สุวะดีปรากฏต่อหน้าสาธารณชนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและเรื่องนี้เองก็ได้ทำให้ประชาชนหลายฝ่ายนั้นต่างให้ความสนใจและเป็นกระแสคือหาอีกครั้งหนึ่งถึงแม้ว่าเรื่องนี้อาจจะทำให้ประชาชนหลายฝ่ายนั้นต่างพากันคาดเดากันไปต่างๆนานาแต่แน่นอนว่า80%ของประชาชนหลายไฟล์ต่างชื่อว่าเหตุการณ์การปรากฏตัวอีกครั้งของท่านศรีรัศมิ์นั้นเป็นเรื่องจริงแต่ก็อาจจะมีประชาชนบางส่วนที่อาจจะยังไม่ปักใจ

เชื่อนางและแน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจเพราะท่านศรีรัศมิ์นั้นเป็นอีกหนึ่งยอดสตรีที่ทรงคุณค่าและท่านก็ได้สร้างคุณงามความดีเอาไว้อย่างมากมายเมื่อตอนที่เธอนั้นยังดำรงตำแหน่งเป็นพระวรชายาแห่งราชวงศ์จักรีอีกครั้งเธอยังเป็นพระมารดาขององค์ชายน้อยในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสืบเนื่องมาจากเรื่องนี้เองในวันนี้ข้าพเจ้าปี5เรื่องที่น่ารู้เกี่ยวกับเจ้าฟ้าที่ป่ะขอพรองค์ชายน้อยแห่งราชบัลลังก์จักรี

วงศ์เรื่องสิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือพระองค์ท่านยังอยู่ในลำดับถัดไปในราชบัลลังก์ไทยและเรื่องนี้ก็ยังคงมีความลึกลับที่ได้ถูกปกปิดเอาไว้ในช่วงที่พระองค์ท่านต้องห่างจากพระมารดาอันเป็นที่รักยิ่งและพระองค์ท่านใช้ชีวิตอย่างไรบางมาขุดราชกุมารวัย16ปีและนี่ก็คือเรื่องราวบางสิ่งเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับพระองค์ท่านที่คุณอาจจะยังไม่รู้อย่างเป็นที่รู้กันดีว่าพระนามของเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชตินั้นเป็นพระนามพระราชทาน

จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชซึ่งมีความหมายที่เป็นมหามงคลว่าผู้ธรรมประทีปคือปัญญาให้สว่างกระจ่างแจ้งผู้ทำก็คือที่พึ่งให้รุ่งเรืองโชติช่วงและเรื่องที่น่ารู้เรื่องที่1พระองค์ท่านเป็นพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียวที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางผลงานจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งประเทศไทยและเมื่อวันที่4กรกฎาคมพ.ศ2548พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เขียนพระนามของเจ้าฟ้าทีปังกร

รัศมีโชติโอนเป็นภาษาอังกฤษว่าคิดเราเช่าไฮเน็ตพื้นทีปังกรรัศมีโชติโดยมีพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่เมื่อวันที่17มิถุนายนพ.ศ2548ในพระที่นั่งอนันตสมาคมตามพระราชประเพณีเมื่อทรงมีพระชนมายุครบ1เดือนอีกด้วยเรื่องน่ารู้เรื่องที่2เมื่อครั้งที่เจ้าฟ้าที่บางกรพระชนมายุ90พรรษาโดยพระองค์ท่านได้อยากจากพระมารดาอันเป็นที่รักคือท่านศรีรัศมิ์สุวะดีและหลังจากนั้นเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติโอนได้ส่งไปศึกษาที่ประเทศเยอรมนีและในตอน

นี้พระองค์ท่านทรงกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติเบาเอ่อInternationalSchoolแห่งรัฐบาวาเรียประเทศเยอรมนีและบ่อยครั้งประชาชนชาวไทยก็มาก็เห็นภาพกิจกรรมสุดอบอุ่นระหว่างเจ้าฟ้าทีปังกรและพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัววัวพร้อมด้วยพระสหายร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆมากมายในระหว่างที่พระองค์ท่านทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศเยอรมนีไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงในโอกาสวันคล้ายวันประสูติของเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติโอนซึ่งเล่นนี้ก็ได้แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงความรักความ

ผูกพันระหว่างเจ้าฟ้าทีปังกรและพระราชบิดาคือในหลวงรัชกาลที่10ถึงแม้ว่าจะไม่มีพระมารดาอยู่เคียงข้างก็ตามแต่พระองค์ท่านก็สามารถเติมเต็มความรักความผูกพันให้แก่องค์ชายน้อยได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องและเรื่องน่ารู้เรื่องที่3เจ้าฟ้าทีปังกรมักจะเสด็จกลับประเทศไทยทุกครั้งโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลที่สำคัญต่างๆเพราะพระองค์ท่านทรงมีความรักและความผูกพันกับผมคิดไทยเป็นอย่างมากและนอกจากนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดพระองค์

ท่านก็จะทรงนำพระสหายมาท่องเที่ยวประเทศไทยด้วยอยู่ในบ่อยครั้งอย่างเช่นครั้งล่าสุดในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงวันหยุดอีสเตอรเจ้าฟ้าทีปังกรทรงนำพระสหายมาต้องเที่ยวเมืองไทยและทรงประกอบพิธีบวงสรวงพื้นที่โคกหนองนาโครงการจัดการพื้นที่การเกษตรตามพระราชดำริน้ำบริเวณพระตำหนักเกลื่อนตนพระที่นั่งวิมานเมฆพระราชวังดุสิตโดยเป็นการปฏิบัติโคกหนองนาร่วมกันอย่างมีความสุขสุดองค์อื่นๆซึ่งเป็นภาพที่ไม่เปิดเผยอย่างเป็น

ทางการนักโดยเป็นการจัดภาพได้จากประชาชนบางส่วนโดยในFacebookของอาจารย์สมศักดิ์เจียมธีรสกุลก็ได้มีการเผยแพร่ภาพของพระสหายเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจและในการนี้เจ้าฟ้าทีปังกรได้เสด็จกลับเยอรมันนีก่อนจะหมดวันหยุดในช่วงเทศกาลEasterซึ่งโดยปกติแล้ววันหยุดในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ของเยอรมนีก็จะหยุดถึงปลายเดือนเมษายนซึ่งคาดว่าอาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิช19สายพันธุ์ใหม่ในประเทศไทยโดยเมื่อปีที่ผ่านมาพระงานอุ่นไอรักจาก

ฟ้าทีปังกรทรงนำพระสหายมาเยี่ยมชมงานอุ่นไอรักและทอดพระเนตรกิจกรรมต่างๆภายในงานพิธีด้วยพระโมเม้นท์สุดอบอุ่นและด้วยความใส่พระทัยซึ่งกันและกันและเรื่องนี้เองก็ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสดใสสมวัยและพระปรีชาสามารถอันหลากหลายถึงแม้ว่าพระองค์ท่านนั้นจะไม่มีพระมารดาอยู่ใกล้ชิดก็ตามและเรื่องน่ารู้เรื่องที่4จะฟ้าทีปังกรยังเป็นจิตอาสาผู้โอ่งอารีย์อีกด้วยเมื่อความที่พระองค์ท่านมีพระชนมายุเพียงแค่14พรรษาโดยที่ประชาชนชาว

ไทยจะได้ทรงเห็นการทำความสะอาดหน้าต่างและทาสีผนังพระวิหารส่งกวาดลานวัดและทำอาหารถวายพระด้วยพระองค์เองโดยเจ้าฟ้าทีปังกรได้ทรงร่วมมีกิจกรรมกับพระสหายในพระอิริยาบถต่างๆอีกทั้งทรงสนทนาธรรมกับเจ้าอาวาสวัดทรงเก็บกวาดพื้นที่หน้าห้องที่ประทับทางแรมและทรงประกอบอาหารทั้งคาวหวานสำหรับเตรียมถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์โดยพระองค์เองอีกด้วยซึ่งเรียกว่าทั้งหมดนี้เป็นกิจกรรมดีๆและสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนโยนและจิตใจที่เขาสะอาดขององค์

ชายน้อยของปวงชนชาวไทยอีกด้วยถึงแม้ว่าพระมารดาจะไม่ได้คอยดูแลอย่างใกล้ชิดแต่พระองค์ท่านก็สามารถปฏิบัติตนได้เป็นอย่างดีไม่มีนอกลู่นอกทางซึ่งเปรียบเสมือนมีพระมารดาคอยดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่ทุกเวลาและนอกจากในพระองค์ท่านอย่างได้รับความรักและความผูกพันจากพระบิดาและบุคคลใกล้ชิดจากพระบรมวงศานุวงศ์ที่คอยดูแลเอาใจใส่ให้ความรักความห่วงใยอยู่เสมอมาซึ่งน่ารู้เรื่องที่5พระองค์ท่านเป็นองค์รัชทายาทอันดับที่1แห่งราชบัลลังก์

จากตรีโดยประชาชนหลายฝ่ายต่างก็ให้น่าสนใจถึงเรื่องนี้กันเป็นอย่างมากซึ่งอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่มีใครที่จะคาดเดาได้โดยประชาชนหลายฝ่ายต่างเชื่อว่าผู้สืบทอดเป็นองค์รัชทายาทรัชกาลต่อไปนั้นน่าจะเป็นเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติโอนและการประกบตัวอีกครั้งของท่านศรีรัศมิ์ในครั้งนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *