ยามสนทยาคลี่คลุมกำแพงพระราชวังแสงสุดท้ายของวัลละลียบตริมหลังคาเครื่องยอดจนเกิดประกายวาวับราวเกล็ดดาวเสียงระฆังปลายยามค่อยๆทอดยาวดั่งลมหายใจของประวัติศาสตร์ค่ำคืนนี้เราจะไม่เร่งสรุปไม่รีบตัดสินหากเพียงค่อยๆเปิดม่านให้สายตาของผู้ชมคุ้นชินกับความมืดสลัวที่ซ่อนรายละเอียดไว้มากมายเพราะบางครั้งเรื่องราวสำคัญไม่ได้เริ่มจากเสียงอื้อแต่เริ่มจากความเงียบที่ยืนยาวความจริงมักเริ่มต้นด้วยเสียงกระซิบนักปราชญ์คนหนึ่งกล่าว
ไว้เช่นนั้นและบ่อยครั้งกระซิบเล็กๆเหล่านั้นเองที่กระเพื่อมไปถึงหัวใจของสถาบันชื่อของเจ้าคุณพระศินีนาฏตะพิราฎกัลยาณีปรากฏขึ้นอีกครั้งท่ามกลางกระแสตีความมากมายในสังคมไทยบ้างเรียกสิ่งนี้ว่าการกลับมาบ้างเพียงมองว่าเป็นการเคลื่อนตัวของสัญลักษณ์ในระบบพิธีการละเอียดอ่อนแต่ไม่ว่าคำอธิบายใดจะชนะใจผู้คนในชั่วขณะความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือความสนใจของสาธารณะกำลังจับจ้องอยู่ที่ความเป็นไปได้ของบทบาทใหม่บทบาทที่อาจมิใช่เพียง
ตำแหน่งหากเป็นฟังก์ชันทางสังคมเป็นสะพานที่เชื่อมพิธีทำกับสายทานความรู้สึกของผู้คนในยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพื่อไม่ให้เรื่องเล่าหลงทางเราขอวางกรอบการเล่าที่เคารพต่อข้อเท็จจริงพร้อมพื้นที่สำหรับการไตร่ตรองเชิงสัญลักษณ์เราจะตั้งคำถามแทนคำตอบเราจะพาผู้ชมอ่านข้อความของกาลเวลาแทนการชี้นิ้วไปยังบทสรุปเฉียบพลันเพราะราชสำนักดำเนินไปไม่ต่างจากจักรวาลนับก้าวด้วยฤดูกาลและพิธีการดวงดาวเคลื่อนช้าแต่มั่นคงพิธีกรรม
เคลื่อนละเอียดแต่ทรงความหมายสิ่งที่เปลี่ยนช้าใช่ว่าจะไม่เปลี่ยนและการรับรู้ของสังคมก็เช่นกันคำถามแรกที่ต้องถามคือนี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงตำแหน่งหรือเชิงบทบาทตำแหน่งเป็นภาพที่ค้นเห็นได้ในเอกสารหรือพิธีการส่วนบทบาทคือพลังเงียบที่ซึมลงไปในความทรงจำร่วมของสังคมหากตำแหน่งบอกเราว่าใครยืนตรงไหนบทบาทก็บล็อกกว่าเขายืนไปเพื่ออะไรและในเวลาที่ใดการพิจารณาบทบาทของเจ้าคุณพระศินีน่าจะจึงไม่ได้หยุดอยู่ตรงคำเรียกขานหากต้อง
มองผ่านภาษากายของพิธีการผ่านลำดับชั้นที่มีตักกับของมันเองผ่านการจัดวางในงานพระราชพิธีผ่านจังหวะปรากฏและเว้นวรรคซึ่งทั้งหมดนี้อาจเป็นถ้อยคำที่สถาบันใช้สนทนากับประชาชนถัดมาเราต้องถามถึงบริบทของยุคสมัยสังคมไทยในห้วงเวลาปัจจุบันมีความหวังและความกังวลที่ทับซ้อนกันผู้คนแสวงหาเสถียรภาพทางความรู้สึกไม่แพ้เสถียรภาพทางการเมืองยิ่งโลกหมุนเร็วเสียงที่เรียกร้องความหมายก็ยิ่งดังบทบาทใหม่ใดๆในสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งไม่ได้มีผลเพียงต่อพิธี
การแต่ยังสะเทือนมิติทางวัฒนธรรมและจิตวิทยาสาธารณะเมื่อภาพหนึ่งภาพที่ผ่านการออกแบบอย่างประณีตสามารถปลอบประโลมหรือกระตุกใจผู้คนนับล้านเราจึงต้องอ่านภาพเหล่านั้นอย่างรอบคอบอ่านการวางองค์ประกอบอ่านสายตาและท่วงท่าที่บอกเล่าความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับสถาบันในอีกมิติหนึ่งการกลับมาของชื่อหนึ่งชื่อในพงศาวดารร่วมสมัยย่อมทำให้ผู้คนถกเถียงบางเสียงโอนเอียงไปสู่ความโรแมนติกของชะตารมบางเสียงระมัดระวังต่อการคาดเดาทั้งสองเสียงสำคัญเท่ากันเพราะช่วยถ่วง
ระหว่างความหวังกับเหตุผลระหว่างความคาดหมายกับวินัยของข้อเท็จจริงเราเลือกเดินบนเส้นได้ระหว่าง2ฝั่งนี้อย่างตั้งใจเปิดพื้นที่ให้ความเป็นไปได้แต่ไม่ทิ้งเข็มทิศของข้อมูลที่ตรวจสอบได้ค่าน้ำหนักของคำพูดจึงไม่อยู่ที่เสียงดังหรือเบาแต่อยู่ที่ความซื่อสัตย์ต่อสิ่งที่รู้จริงและสิ่งที่ยังเป็นเพียงในเพื่อให้การรับชมในตอนต่อไปมีหลักยึดร่วมกันขอชวนผู้ชมตั้งสมมติฐานเบื้องต้นประการแรกหากสถาบันต้องการสื่อสารความต่อ
เนื่องบทบาทใหม่จะถูกออกแบบให้ขับเน้นความกลมกลืนไม่ใช่การตัดตอนประการที่2หากสถาบันต้องการสื่อสารการปรับตัวบทบาทใหม่จะเปิดทางให้เกิดการเชื่อมสะพานระหว่างประเพณีกับสังคมร่วมสมัยผ่านงานอุปถัมภ์หรือภารกิจเฉพาะทางที่สัมผัสได้จริงประการที่3หากต้องการสื่อสารความหวังบทบาทใหม่จะปรากฏควบคู่สัญลักษณ์ที่อ่านง่ายและจับใจเช่นสีสันดอกไม้เครื่องราชูโพกหรือการจัดวางที่บ่งชี้การโอบรับของพิธีธรรมสมมติฐานทั้ง3มิใช่ข้อสรุปหาก
เป็นเลนให้เราดูพัฒนาการต่อไปด้วยสติท่ามกลางเลนเหล่านี้เจ้าคุณพระศินีน่าจะถูกอ่านในฐานะภาพสะท้อนของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับสถาบันเราอาจเห็นความเงียบที่เป็นภาษาหนึ่งเห็นการเว้นวรรคที่เป็นน้ำเสียงหนึ่งเห็นการปรากฏที่ไม่ต้องประกาศแต่มีความหมายนี่คือความงามแบบราชพิธีที่ไม่เร่งเร้าแต่สลักซ้อนด้วยชั้นเชิงพิธีการคือบทกวีที่เขียนด้วยกาลเวลาถ้อยคำนี้ช่วยเตือนใจว่าสิ่งที่เราเห็นในขณะหนึ่งมักเชื่อมโยงกับเส้นยาวของ
อดีตและทิศทางของอนาคตเสมอการเล่าของเราจึงจะดำเนินต่อไปด้วยจังหวะของเรื่องจริงที่ยืนยันได้สลับกับการตีความเชิงสัญลักษณ์เราจะยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่มีบันทึกสาธารณะรองรับเพื่อเป็นหมุดยึดและใช้ถ้อยคำเปรียบเทียบเพื่อเปิดช่องทางความคิดเพราะผู้ชมไม่ได้ต้องการเพียงคำตอบแต่ต้องการภาษาที่จะอธิบายความรู้สึกของตนเองต่อภาพที่เห็นหากบทบาทใหม่เกิดขึ้นจริงมันจะไม่ใช่เพียงการมอบหมายหากเป็นพิธีกรรมทางความทรงจำร่วมที่ทำให้ผู้
คนตีความความหมายของการอยู่ร่วมกันระหว่างสถาบันกับสังคมในโลกยุคใหม่ท้ายที่สุดของตอนนี้เราขอทิ้งคำถามหนึ่งไว้ให้คิดเมื่อเสียงกระซิบเริ่มดังขึ้นเป็นเสียงพูดคุยเราจะวัดน้ำหนักของมันอย่างไรในโลกที่ข่าวสารหลั่งไหลและการตีความเร็วกว่าเอกสารการยืนอยู่ฝั่งของความเคารพต่อข้อเท็จจริงอาจดูเชื่องช้าแต่ความช้าดังกล่าวคือความแข็งแรงของเรื่องเล่าที่จะคงอยู่สิ่งที่ยืนยาวมักเดินช้าและบทบาทที่ยืนยาวก็เช่นกันหากมีการเปลี่ยนผ่านเกิด
ขึ้นจริงมันจะโคจรเข้าที่อย่างสงบและหนักแน่นด้วยภาษาแห่งพิธีกรรมการมากกว่าจะระเบิดเสียงดังในคืนเดียวจากนี้ไปในตอนถัดไปเราจะเรียบเรียงลำดับเหตุการที่ตรวจสอบได้วางหมุดเวลาและความหมายของมันแล้วค่อยพาผู้ชมก้าวสู่การอ่านพระราชประสงค์และวิสัยทัศน์ของสถาบันอย่างเป็นระบบเพื่อให้ทุกการตีความตั้งอยู่บนฐานที่รับผิดชอบต่อความจริงและความรู้สึกของผู้คนเพราะในเรื่องราวของสถาบันไม่มีใครเป็นเพียงผู้เฝ้ามองทุกคนล้วนเป็นเจ้าของความ
ทรงจำร่วมที่กำลังเขียนต่อหน้าต่อตาก่อนที่เราจะตีความความหมายเชิงสัญลักษณ์จำเป็นต้องวางรากฐานของข้อเท็จจริงให้มั่นคงเสียก่อนเรื่องราวของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราชกัลยาณีหมายเหตุสำหรับการอ้างอิงเชิงเวลาในเอกสารก่อนการปรับการสะกดพระนามมีการเขียนว่านาตะมิได้ดำเนินไปตามเส้นตรงหากแต่เป็นเส้นโค้งที่ผ่านจังหวะของการสถาสถาปนาการเว้นวรรคการเยียวยาและการนิยามใหม่ความเข้าใจต่อจังหวะเหล่านี้จะทำให้เรามองเห็นทั้งตัวบทของราชพิธีและพลังอ่อนของการสื่อสาร
สาธารณะซึ่งแทรกซึมอยู่ในความทรงจำร่วมของสังคมฉากแรกเริ่มขึ้นในห้วงเวลาหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษกไม่นานเมื่อมีพระบรมราชโองการสถาปนาให้ท่านผู้หญิงผู้หนึ่งก้าวเข้าสู่ฐานันดรเจ้าคุณพระจารึกไว้ด้วยสุพรรณบัตตาตามโบราณราชประเพณีนับเป็นวรรคแรกที่นิยามตัวตนในพิธีทำอย่างชัดเจนจากท่านผู้หญิงสู่เจ้าคุณพระแปลว่าไม่เพียงเพิ่มเกียรติยศหากยังชี้แนวทางบทบาทในฐานะผู้ร่วมประคับประคองระเบียบพิธีและภารกิจสาธานที่อาศัยความไว้วางพระ
ราชหฤไทัยการสถาปนานี้เปรียบเสมือนการวางหมุดหลักที่ปลายสะพานให้คนทั้งสังคมรู้ว่ามีผู้รับบทปรากฏตัวขึ้นในระบบความหมายของราชสำนักฉากถัดมาเกิดขึ้นรวดเร็วและหนักแน่นดุจเสียง ้องเมื่อมีพระบรมราชโองการประกาศให้พ้นจากตำแหน่งถอดฐานันดรศักดิ์เรียกคืนยศทหารและเครื่องราชอิสริยาภรณ์วรรคตอนนี้เป็นการเว้นวรรคใหญ่ที่ทำให้เส้นเรื่องหยุดหายใจชั่วครู่สังคมไม่ได้เพียงอ่านข่าวหากอ่านความหมายว่าในระบบพิธีที่มีตักกทรัพย์ซ้อนการยุติสถานะ
อย่างเป็นทางการคือถ้อยคำชนิดหนึ่งที่สื่อสารให้เห็นมาตรฐานและระเบียบของสถาบันจังหวะแห่งการเว้นวรรคจึงมิใช่สุนยากาศหากเป็นพื้นที่นิ่งที่รอการตัดสินของเวลาแล้วเวลาเองก็พาเรื่องราวเดินหน้าต่อเมื่อมีพระบรมราชโองการขึ้นฐานันดอนศักดิ์โดยให้ถือเสมือนว่าไม่เคยถูกถอดถอนมาก่อนนี่คือวรรคของการเยียวยาและต่อเรื่องตัวบททางพิธีทำเย็บรอยต่อให้เนียนไปกับเนื้อผ้าเดิมจนความต่อเนื่องกลับมามีรูปทรงอีกครั้งในเชิงสังคมศาสตร์นี่คือการซ้อมเสียงของสถาบัน
00:09:58เพื่อประกาศเจตนารมณ์ว่าเรื่องเล่าไม่ได้จบลงที่การเว้นวรรคหากยังมีการหายใจต่ออย่างสงบและมีแบบแผนเมื่อผู้ชมเห็นเจ้าคุณพระปรากฏพระองค์ในพระราชกรณียกิจอีกครั้งภาพนั้นจึงไม่ใช่เพียงการกลับมาหากเป็นสัญญาณว่าบทพูดของเรื่องได้เริ่มบรรเลงท่อนต่อไปแล้ววรรคสำคัญอีกประการหนึ่งคือการขอให้ชื่อใหม่อันเป็นการปรับการสะกดพระนามจากที่เคยคุ้นสู่รูปแบบเจ้าคุณพระศินีนาถพิราฎกัลยาณีการปรับถ้อยคำในระดับพระนามมิใช่เพียงเทคนิคภาษาหากเป็นสถาปัตยกรรมของ
ความหมายที่ชี้แสงไฟยังคุณลักษณะและคุณธรรมที่สังคมควรมองเห็นการเรียกขานที่เป็นทางการทำหน้าที่เหมือนกรอบทองของภาพวาดทำให้ผู้ชมรับรู้เจตนาที่อยากเน้นและความงามที่อยากย้ำเมื่อพระนามได้รับการนิยามใหม่ก็เหมือนเราได้เลนสะอาดขึ้นสำหรับอ่านบทต่อไปหากมองทั้ง4วรรคนี้เป็นเส้นเดียวกันเราจะเห็นรูปทรงที่ชัดเจนของเรื่องเล่าในพิธีธรรมเริ่มจากการนิยามต่อด้วยการเว้นวรรคตามด้วยการเยียวยาและปิดด้วยการนิยามชื่ออย่างประหนิเส้นนี้บอก
เราว่าราชสำนักไม่ได้สื่อสารด้วยเสียงดังเพียงคราวเดียวแต่สื่อสารด้วยลมหายใจยาวที่แบ่งเป็นห้วงและจังหวะแต่ละจังหวะมีเอกสารรองรับมีพิธีการรองรับและมีภาพจำสาธารณะรองรับเมื่อทั้ง3ชั้นซ้อนทับกันความเชื่อถือของเรื่องจึงสูงขึ้นและเปิดพื้นที่ให้การตีความเชิงสัญลักษณ์ทำงานได้โดยไม่ละทิ้งฐานข้อเท็จจริงในเชิงภาษาพิธีเราเห็นการขยับจากตำแหน่งสู่บทบาทอย่างค่อยเป็นค่อยไปตำแหน่งคือภาพที่ปรากฏบนกระดาษบทบาทคือแรงดึงดูดที่สังคม
รู้สึกได้ผ่านการจัดวางท่วงท่าและภารกิจที่สัมผัสชีวิตผู้คนเมื่อเจ้าคุณพระศินีนาถพิราฎกัลยาณีปรากฏพระองค์ในพระราชพิธีสำคัญหรือภารกิจอุปถัมภ์ภาษากายของพิธีกรรมเช่นตำแหน่งยืนลำดับขบวนการเว้นวรรคของสายตาล้วนเป็นตัวอักษรในบทที่ไม่มีคำพูดสิ่งเหล่าเหล่านี้ค่อยๆเรียบเรียงบทบาทเชิงหน้าที่ให้ปรากฏเด่นขึ้นโดยไม่ต้องประกาศในเชิงจิตวิทยาสาธารณะการเว้นวรรคใหญ่และการเยียวยาในเวลาต่อมาทำให้ผู้คนเดินทางจากความตระหนกสู่ความ
คุ้นชินและจากความคุ้นชินสู่การตีความใหม่ความรู้สึกของสังคมจึงขยับจากคำถามเกิดอะไรขึ้นไปสู่คำถามจะไปทางไหนเมื่อคำถามหลังเริ่มดังขึ้นนั่นคือสัญญาณว่าเรื่องเล่าได้เข้าสู่เฟสของวิสัยทัศน์ไม่ใช่เพียงข่าวเหตุการณ์เมื่อมองผ่านเลนนี้ภาพของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราฎกัลยาณีจึงทำหน้าที่เหมือนกระจกที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันกับยุคสมัยว่าจะวางสมดุลระหว่างประเพณีกับโลกสมัยใหม่อย่างไรในเชิงยุทธศาสตร์การสื่อสารธารณะวรรค
แรกทำหน้าที่นิยามวรรคที่2แสดงขอบเขตของระเบียบวรรคที่3ซ่อมแซมความต่อเนื่องและวรรคสุดท้ายจัดวางถ้อยคำเพื่อเน้นคุณลักษณะเมื่อทั้ง4วรรคถูกเรียบเรียงเข้าด้วยกันเส้นทางสู่บทบาทที่ถูกคิดใหม่ในตอนถัดไปจึงเปิดโล่งเราจะสามารถสนทนาเรื่องบทบาทที่เป็นไปได้อย่างมีหลักยึดทั้งในฐานะเสาหลักงานพระราชพิธีแกนกลางงานอุปถัมภ์หรือสะพานเชื่อมระหว่างสถาบันกับสังคมร่วมสมัยโดยไม่หลุดจากกรอบข้อเท็จจริงและความละเอียดอ่อนของราชาศัพท์ดังนั้นตอนนี้จึงทำหน้าที่เป็น
แผนที่และเข็มทิศในคราวเดียวกันแผนที่สำหรับระบุหมุดเวลาที่ตรวจสอบได้เข็มทิศสำหรับชี้ทิศทางการอ่านในเชิงความหมายเมื่อเราถือทั้ง2ชิ้นไว้ในมือพร้อมความตระหนักว่าพิธีการคือบทกวีที่เขียนด้วยเวลาเราจึงพร้อมจะก้าวสู่บทที่ว่าด้วยพระราชประสงค์และวิสัยทัศน์ในตอนหน้าเพื่อดูว่าภาษาของเอกสารภาษาของพิธีและภาษาของสังคมจะบรรเลงเป็นทำนองเดียวกันอย่างไรเมื่อเราเรียงหมดเวลาชัดเจนแล้วภาษาแห่งพิธีธรรมก็เริ่มเปล่งเสียงให้ตีความได้
เป็นระบบพระราชประสงค์มิได้ถูกประกาศด้วยวลีตรงไปตรงมาเสมอไปหากซ่อนอยู่ในจังหวะการสถาปนาการเว้นวรรคการคืนฐานันดรและการนิยามพระนามใหม่จังหวะเหล่านี้คือภาษารัฐพิธีที่สื่อสารทิศทางอันละเอียดอ่อนของสถาบันและทั้งหมดนี้ชิให้เห็นภาพรวมว่ามีความมุ่งหมายในการเย็บรอยต่ออดีตกับปัจจุบันให้กลมกลืนโดยรักษาแก่นกลางของประเพณีฮิตและพร้อมเปิดพื้นที่สำหรับบทบาทร่วมสมัยของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราฎกัลยาณีหากมองผ่านเลนสถาบันเราเห็นตรรก
ชั้นที่ทำงานประสานกันชั้นแรกคือตัวบทในเอกสารราชการซึ่งให้กรอบกฎหมายและการรับรองสถานภาพชั้นที่2คือพิธีธรรมที่จัดวางตำแหน่งเวลาลำดับและมารยาทเพื่อสื่อระดับความไว้วางพระราชหฤทัยชั้นที่3คือภาพสาธารณะซึ่งเกิดจากการปรากฏพระองค์ในพระราชกรณียกิจและงานอุปถัมภ์ที่จับต้องได้3ชั้นนี้เมื่อซ้อนทัพกันย่อมสะท้อนวิสัยทัศน์ที่เป็นรูปธรรมนั่นคือการให้ความสำคัญกับความต่อเนื่องความสมดุลและความหวังอำนาจที่ยั่งยืนคืออำนาจที่แปรรูปเป็นความไว้วางใจ
ถ้อยคำนี้เหมาะจะเป็นเข็มทิศอ่านพระราชประสงค์ในห้วงเวลาเช่นนี้ความต่อเนื่องปรากฏผ่านถ้อยคำทางเอกสารที่ให้ถือเสมือนว่าไม่เคยมีช่วงถอดถอนมาก่อนผลลัพธ์เชิงสัญลักษณ์คือเรื่องเล่ากลับสู่เนื้อเดียวไม่เกิดรอยประทีที่ทำลายความทรงจำร่วมของสังคมความสมดุลสะท้อนในพิธีทำการขยับจากตำแหน่งไปสู่บทบาทอย่างค่อยเป็นค่อยไปไม่เร่งเร้าแต่หนักแน่นยืนยันกันว่าความเปลี่ยนแปลงในราชสำนักมักเดินด้วยจังหวะยาวในขณะที่ความหวังถูกกว้างผ่านการนิยามพระนามอย่าง
ประณีตซึ่งทำหน้าที่เป็นกรอบความหมายใหม่ให้สังคมมองเห็นคุณลักษณะเชิงคุณธรรมและภารกิจทางสังคมที่สอดคล้องยุคสมัยเมื่อใช้กรอบนี้อ่านเราจะเห็นทิศทางของบทบาทที่พระราชประสงค์อาจให้ความสำคัญไม่ใช่บทบาทที่ยึดกับตำแหน่งทางกฎหมายเพียงอย่างเดียวแต่เป็นบทบาทเชิงหน้าที่ที่มีพลังอ่อนสูงกล่าวคือบทบาทที่เชื่อมระหว่างรัดพิธีกับความรู้สึกของผู้คนผ่านงานอุปถัมภ์งานสังคมและพื้นที่สื่อสารที่เข้าถึงประชาชนหัวใจของพิธีคือการทำให้
คุณค่ามองเห็นหากคุณค่าที่ต้องการเน้นคือความต่อเนื่องความเมตตาและความร่วมสมัยบทบาทของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราชกัลยาณีย่อมถูกออกแบบให้เป็นสื่อกลางที่ทำให้คุณค่าเหล่านี้ปรากฏอย่างสุภาพและคงเสถียรอย่างไรก็ดีการอ่านพระราชประสงค์จำเป็นต้องแยกแยะระหว่างสิ่งที่เอกสารระบุชัดกับในเชิงพิธีเราไม่อาจสรุปความตั้งใจด้วยถ้อยคำเด็ดขาดแต่สามารถเสนอกรอบตีความที่รับผิดชอบต่อข้อเท็จจริงได้ตัวอย่างเช่นหากพระราชประสงค์มุ่งเน้นการ
ประคับประคองทุนสัญลักษณ์ของสถาบันบทบาทที่เหมาะสมย่อมเป็นงานที่สร้างความคุ้นชินอันอ่อนโยนการปรากฏพระองค์ในรัฐพิธีซึ่งมีในย้ำความกลมกลืนของลำดับชั้นการสนับสนุนกิจกรรมอุปถัมภ์ด้านวัฒนธรรมสุขภาวะหรือการพัฒนาชุมชนที่ประชาชนสัมผัสได้จริงสิ่งเหล่านี้มิใช่งานประกาศก้องหากเป็นงานหายใจยาวที่เพิ่มความไว้วางใจทีละน้อยในระดับจิตวิทยาสาธารณะพระราชประสงค์ที่วางบทบาทแนวนี้เปรียบเสมือนการวางสะพาน2ชั้นบนคือภาษาแห่งพิธีที่
คงความศักดิ์สิทธิ์และคุณค่าทางวัฒนธรรมชั้นล่างคือภาษาแห่งชีวิตประจำวันที่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าถูกเห็นถูกใส่ใจและมีส่วนร่วมการเชื่อมส่องภาษาเข้าหากันได้คือหัวใจของความชอบธรรมแบบร่วมสมัยเพราะพิธีจะมีชีวิตได้ต่อเมื่อมันสะท้อนชีวิตของผู้คนขณะเดียวกันชีวิตก็ได้กรอบคุณค่าจากพิธีที่กำกับความหมายร่วมในทางยุทธศาสตร์การสื่อสารสาธการจัดวางบทบาทของเจ้าคุณพระศินีหน้าอัถพิราชกัลยาณีให้ทำหน้าที่ผสานเสียงระหว่างความทรงจำกับปัจจุบันจะช่วยให้
สถาบันสื่อสาร3สิ่งพร้อมกันโดยไม่ขัดแย้งกันเอง1ความมั่นคงของจริด2ความสามารถในการปรับตัวและ3ความอบอุ่นของมนุษยภาพเส้นทางนี้ไม่ต้องการวาทกรรมใหญ่โตหากต้องการวินัยของจังหวะและความสม่ำเสมอของภาพที่สื่อออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าสิ่งที่ยืนยาวมักเดินช้าแต่เมื่อเดินช้าอย่างมีจังหวะความไว้วางใจจะสะสมจนกลายเป็นภูมิคุ้มกันทางสังคมมิติระหว่างประเทศก็สำคัญแม้ราชสำนักเป็นสถาบันภายในแต่ภาพลักษณ์ในสายตานานาชาติมีผลต่อความ
00:19:28น่าเชื่อถือของรัฐโดยรวมบทบาทเชิงหน้าที่ที่เน้นงานอุปถัมภ์งานวัฒนธรรมและความร่วมมือทางมนุษยธรรมคือภาษาสากลที่เข้าใจง่ายและเป็นมิตรการปรากฏในเวทีที่มีมิติระหว่างประเทศอย่างพอดีไม่มากไปไม่น้อยไปจะช่วยย้ำว่าการคงอยู่ของประเพณีไทยสามารถเดินคู่กับความเป็นสากลร่วมสมัยได้โดยไม่สูญเสียเอกลักษณ์เมื่อถักทอประเด็นทั้งหมดเข้าด้วยกันภาพของพระราชประสงค์และวิสัยทัศน์ที่โผล่พ้นหมอกจึงมิใช่ภาพของการประกาศบทบาทชัดๆเพียงครั้งเดียวหากเป็นภาพของสถาปัตยกรรม
00:20:08แห่งความหมายที่สร้างด้วยอีก3ก้อนตัวบทพิธีธรรมและภาพสาธารณะวางทัพกันอย่างพอดีการสถาปนาการเว้นวรรคการคืนฐานันดรและการนิยามพระนามใหม่ที่เราวางหมุดไว้ในตอนก่อนล้วนทำหน้าที่เป็นฐานรากให้สะพานบทบาทยุคใหม่ทอดข้ามไปสู่ความรู้สึกของประชาชนจากตรงนี้เองเราจึงพร้อมก้าวสู่ตอนถัดไปว่าด้วยบทบาทที่ถูกคิดใหม่โดยจะไม่หยุดอยู่ที่ความเป็นไปได้ในอากาศหากจะยกกรอบบทบาทที่สอดคล้องกับตรรกสถาบันและสภาพสังคมร่วมสมัยอธิบายว่าเหตุใดบทบาท
00:20:47บางแบบจึงมีพลังอ่อนมากกว่าแบบอื่นและวิเคราะห์ว่าภาษาแห่งพิธีจะทำให้บทบาทนั้นมองเห็นได้อย่างสมศักดิ์ศรีและสมเหตุสมผลอย่างไรเพราะท้ายที่สุดบทบาทที่ดีในราชสำนักคือบทบาทที่ทำให้ผู้คนเข้าใจว่าคุณค่าถูกดูแลอยู่แม้มองไม่เห็นทุกขั้นตอนก็ตามเมื่อเรามีทั้งแผนที่และเข็มทิศจาก2ตอนแรกและเห็นทิศทางพระราชประสงค์ในตอนที่3แล้วเวทีจึงพร้อมสำหรับการออกแบบบทบาทที่ถูกคิดใหม่ของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราฎกัลยาณีไม่ใช่ในความหมาย
00:21:25ของการเพิ่มตำแหน่งหากในความหมายของการจัดสรรหน้าที่และภารกิจให้สอดรับกับยุคสมัยภายใต้กรอบพิธีธรรมที่คงเสถียรบทบาทที่ดีในราชสำนักไม่จำเป็นต้องดับแต่ต้องสม่ำเสมอมองเห็นได้โดยภาษาของพิธีการและผลงานที่สัมผัสชีวิตผู้คนเกียรติยศที่แท้จริงมีได้แสวงหาความสนใจแต่อยู่ในความสามารถพาให้ผู้คนสงบลงหลักคิดนี้คือหัวใจของแบบจำลองต่อไปนี้1บทบาทแกนกลางพระราชพิธีนี่คือบทบาทที่ทำงานกับพลังอ่อนของรัฐพิธีโดยตรงเป็นงานที่เน้นความ
00:22:04กลมกลืนของลำดับชั้นความประณีตของมารยาทและความต่อเนื่องของวารพิธีสำคัญบทบาทเช่นนี้มิได้วัดด้วยเวลาปรากฏหากด้วยจังหวะของการปรากฏและการเว้นวรรคอย่างพอดีการจัดวางตำแหน่งยืนลำดับขบวนสายตาและการเคลื่อนในพื้นที่พิธีคือภาษาเงียบที่ส่งสัญญาณถึงความไว้วางพระราชหฤทัยและระดับภารกิจที่ได้รับมอบหมายหากบทบาทนี้อิตถูกพัฒนาอย่างมีวินัยภาพลักษณ์ที่สังคมรับรู้จะเป็นความนิ่งและสุภาพไม่เร่งร้อนแต่หนักแน่นสร้างความมั่นใจว่า
00:22:42พระราชพิธีเป็นรากฐานของเอกลักษณ์ไทยที่คงอยู่2บทบาทเสาหลักงานอุปถัมภ์ในโลกสมัยใหม่งานอุปถัมภ์คือสะพานที่พาคุณค่าจากพิธีให้ลงสู่ชีวิตประจำวันบทบาทนี้อาจเน้นชุดภารกิจที่มีผลลัพธ์สัมผัสได้เช่นวัฒนธรรมและสิฐานรากสุภาวญิงและเด็กหรือการพัฒนาทักษะชุมชนข้อสำคัญคือการวางตัวเป็นผู้ประคองมากกว่าผู้ชี้นำให้พื้นที่แก่หน่วยงานภาคีและชุมชนได้ยืนเคียงคู่พิธีไม่ใช่ถูกพิธีกลบเสียงการสื่อสารของบทบาทนี้ควรมีถ้อยคำสั้นสุภาพมุ่งเน้นความหวังและ
00:23:25ความร่วมมือมากกว่าความยิ่งใหญ่ของพิธีเมื่อปรากฏต่อเนื่องสังคมจะค่อยๆสัมผัสได้ว่าเกียรติยศถูกแปลงเป็นประโยชน์ร่วมและความศรัทธาก็ถูกแปลงเป็นการลงมือทำ3บทบาทสะพานพิธีสังคมนี่คือบทบาทแปลภาษาจากภาษาราชพิธีสู่ภาษาชีวิตประจำวันทำหน้าที่เชื่อมเรื่องเล่าของสถาบันกับความรู้สึกของประชาชนร่วมสมัยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความหมายที่จับต้องได้บทบาทนี้อาจปรากฏผ่านการอธิบายคุณค่าของพิธีในบริบทสมัยใหม่การอยู่ร่วมกับ
00:24:03กิจกรรมการเรียนรู้สื่อสื่อสาธารณะและพื้นที่วัฒนธรรมร่วมสมัยที่ยังคงความสุภาพและกาลเทศะจุดแข็งของบทบาทนี้คือการสร้างภาษากลางแห่งความเคารพซึ่งทำให้คนต่างรุ่นต่างสาขาต่างมุมมองสามารถพบกันครึ่งทางได้โดยไม่บั่นทอนสาระของประเพณี4.บทบาทอ่อนระหว่างประเทศแม้ราชสำนักเป็นสถาบันภายในประเทศแต่ภาพลักษณ์ในเวทีโลกคือกระจกที่สะท้อนคุณค่าของวัฒนธรรมไทยบทบาทอ่อนระหว่างประเทศที่สอดคล้องกับจารีดอาจเกี่ยวกับมรดกวัฒนธรรมความร่วม
00:24:43มือด้านมนุษยธรรมหรือโครงการแรกเปลี่ยนเชิงศิลปะวัฒนธรรมที่สุภาพและพอดีการปรากฏตัวที่มีกาลเทศะไม่มากไปไม่น้อยไปจะทำให้โลกเห็นว่าสยามแบบแผนสามารถสนทนากับโลกสมัยใหม่ได้อย่างงามสง่าโดยไม่สูญเสียแก่นแท้เมื่อวางแบบจำลองทั้ง4เราจำเป็นต้องแยกตำแหน่งออกจากบทบาทเชิงหน้าที่ตำแหน่งเป็นกรอบกฎหมายและพิธีทำที่นิยามสถานภาพส่วนบทบาทเชิงหน้าที่คือการนำสถานภาพนั้นไปทำงานกับความรู้สึกของสังคมหากบทบาทเหล่านี้ถูกพัฒนาอย่างประณีตภาพ
00:25:23ที่เห็นจะไม่ใช่การประกาศเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในคราวเดียวแต่เป็นความต่อเนื่องของการปรากฏเล็กๆที่ประกอบกันเป็นเรื่องใหญ่สิ่งยิ่งใหญ่ถูกสร้างจากความคงเส้นคงวาของสิ่งเล็กการวางยุทธศาสตร์จึงควรยึดหลักจังหวะสม่ำเสมอและน่าเชื่อถือเพื่อให้มองเห็นผลสะเทือนในระดับสถาบันเราอาจทดสอบบทบาททั้ง4ด้วยคำถาม3ข้อ1บทบาทนั้นเสริมความต่อเนื่องของพิธีหรือไม่ข้อ2บทบาทนั้นเชื่อมประชาชนกับคุณค่าหลักของสถาบันได้จริงหรือไม่ข้อ3บท
00:26:00บาทนั้นเพิ่มทุนความไว้วางใจระยะยาวหรือไม่หากคำตอบสอดคล้องทั้ง3ข้อนั่นคือบทบาทที่ไม่เพียงเหมาะสมหากยังมีพลังอ่อนสูงซึ่งเป็นทุนที่สถาบันต้องการในยุคที่ข่าวสารเปลี่ยนเร็วกว่าเวลาแห่งพิธีในแง่การปฏิบัติงานของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราชกัลยาณีที่สอดรับแบบจำลองนี้ควรมีจังหวะ3ชั้นชั้นแรกจังหวะพิธีที่ยืนอยู่กับความนิ่งและความงามชั้นที่2จังหวะงานอุปถัมภ์ที่ยืนอยู่กับประโยชน์สัมผัสได้ชั้นที่3จังหวะสื่อสารที่ยืนอยู่กับ
00:26:38ความเข้าใจและความหวังการซ้อนจังหวะทั้ง3อย่างพอดีจะทำให้ภาพรวมไม่เอนไปข้างใดข้างหนึ่งและทำให้สาธารณชนคุ้นชินกับเรื่องเล่าร่วมใหม่โดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้เชื่อแบบอย่างจากประวัติศาสตร์ราชราชสำนักไทยและต่างประเทศชี้ว่าบทบาทที่ยืนยาวมักเติบโตจากการดูแลรายละเอียดเล็กน้อยของพิธีและชีวิตประจำวันมากกว่าจากการเคลื่อนไหวที่ฉับพลันความสำเร็จจึงอยู่ที่วินัยของความเงียบและความสม่ำเสมอของการปรากฏเมื่อเหล่านี้ทับซ้อนกันครั้ง
00:27:13แล้วครั้งเล่าความหมายใหม่จึงค่อยๆถูกยอมรับโดยธรรมชาติไม่ใช่ด้วยแรงกดดันของวาทกรรมท้ายที่สุดบทบาทที่ถูกคิดใหม่คือการสร้างสะพานที่ยาวพอและแข็งแรงพอระหว่างอดีตกับอนาคตระหว่างพิธีกับชีวิตระหว่างความเงียบกับเสียงของสาธารณะหากสะพานนี้วางด้วยอีก3ก้อนเดิมตัวบทพิธีธรรมและภาพสาธารณะและร้อยด้วยสายใยของความเมตตาความสุภาพและความมั่นคงบทบาทของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราชกัลยาณีจะทำงานในระดับความทรงจำร่วมสร้างความสงบให้สังคม
00:27:53และค่อยๆเติมพลังไว้วางใจที่สถาบันต้องการในระยะยาวตอนถัดไปเราจะลงลึกสู่สมการราชสำนักลำดับชั้นพลวัตและพิธีธรรมเพื่อดูว่าบทบาทที่เสนอไว้จะปรับสมดุลระหว่างบุคคลและสถาบันอย่างไรในเชิงโครงสร้างองค์ประกอบใดคือสัญญาณการยอมรับและจังหวะใดคือสัญญาณการส่งต่อภารกิจเพื่อให้ผู้อ่านเห็นการทำงานภายในที่ละเอียดอ่อนโดยไม่ละเมิดราชสำนักดำเนินไปด้วยตรรกะที่เห็นและไม่เห็นพร้อมกันสมการของมันประกอบด้วยตัวแปรอย่างน้อย3มิติคือลำดับชั้นไฮคีพิธีทำ
00:28:35virtualgrรามาและพลวัตของมนุษย์humandynamicหากเราต้องการอ่านบทบาทที่ถูกคิดใหม่ของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราชกัลยาณีอย่างรับผิดชอบต่อข้อเท็จจริงและความละเอียดอ่อนเราจำเป็นต้องแยกมิติเหล่านี้ออกจากกันก่อนจะค่อยค่อยๆประกอบกลับเป็นภาพรวมมิติแรกคือลำดับชั้นซึ่งมักปรากฏในรูปแบบที่จับต้องได้เช่นตำแหน่งยืนในขบวนการเรียงลำดับการถวายความเคารพการเอ่ยนามในประกาศหรือคำอธิบายภาพข่าวและระยะห่างเชิงพิธีระหว่างองค์สำคัญแต่ละพระองค์
00:29:12ลำดับชั้นมิใช่เพียงแบบแผนหากเป็นภาษากายของสถาบันที่สื่อระดับความไว้วางพระราชหฤทัยโดยไม่จำเป็นต้องออกเสียงตำแหน่งที่เปลี่ยนเพียงครึ่งก้าวหรือช่วงเวลาปรากฏที่ยาวขึ้นเพียงไม่กี่นาทีล้วนเป็นสัญญาณอ่อนที่ควรอ่านอย่างระมัดระวังด้วยหลักคิดว่าพิธีคือการวางจุดให้สังคมเชื่อมเส้นเองมิติที่2คือพิธีทำอันเป็นไวยากรณ์เงียบของราชสำนักเราอ่านมันได้จากจังหวะการเสด็จไปกลับเว้นวรรคปรากฏการเปลี่ยนฉากจากพระราชพิธีสู่ภารกิจอุปถัมภ์และภาษาของเครื่องหมายตั้งแต่
00:29:52ลำดับขบวนเครื่องราชูปโภคไปจนถึงรายละเอียดอย่างการวางองค์ประกอบในภาพทางการพิธีทำไม่พูดแทนกฎหมายแต่ทำหน้าที่จัดโฟกัสให้สายตาสาธารณะเมื่อพิจารณาบทบาทของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราชกัลยาณีในกรอบนี้สิ่งที่เรามองหาจึงไม่ใช่เพียงการปรากฏบ่อยครั้งหากคือความเสมอต้นเสมอปลายของจังหวะที่บวานได้ถูกออกแบบให้สื่อความอ่อนโยนมั่นมั่นคงและยืนยาวมิติที่3คือพลวัตของมนุษย์ซึ่งอาศัยทั้งการโค้งกาลเทศะและความเป็นธรรมชาติของความสัมพันธ์ภายในราชสำนักเมื่อพระ
00:30:32บรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ทรงมีภารกิจและพารบทบาทต่างกันตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระวชิรักษ์เกล้าเจ้าอยู่หัวสมเด็จพระนางเจ้าสุธิดาัชรสุทธาภิมลักษณ์พระบรมราชินีสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิตติยาผ่าไปจนถึงพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวณวรีนารีรัตน์การจัดวางบทบาทคนหนึ่งย่อมสัมพันธ์กับจังหวะของอีกหลายพระองค์เสมอพลวัตที่ดีจึงไม่ทำให้ใครเด่นจนกลบเสียงผู้เกี่ยวข้องอื่นหากทำให้ทุกองค์
00:31:10ประกอบเข้าคลอดเดียวกันได้อย่างสุภาพและมีความหมายเพื่ออ่านสมการนี้ให้ได้ผลเราเสนอกรอบสังเกตอย่างมีวินัยใน3ชั้นภาพwhatweseeชั้นจังหวะwhenoftenและชั้นความหมายimpliesในชั้นเราพิจารณาการจัดวางตำแหน่งยืนลำดับการถวายความเคารพและการมีส่วนร่วมในพิธีหรือภารกิจในชั้นจังหวะเราสังเกตความต่อเนื่องความสม่ำเสมอและวาระที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงโดยเน้นระยะยาวมากกว่าเหตุการณ์โดดเด่นครั้งเดียวในชั้นความหมายเรานำ2ชั้นแรกมาประกอบกับตัวบทที่ตรวจสอบได้
00:31:53เพื่อหลีกเลี่ยงการตีความเกินเหตุผลลัพธ์ที่ต้องการไม่ใช่คำตัดสินทันทีแต่คือแนวโน้มที่น่าเชื่อถือว่าบทบาทใดกำลังถูกร้อยขึ้นอย่างไรเมื่อนำกรอบนี้ไปวางกับเจ้าคุณพระศินีนาอัถพิราฎกัลยาณีสิ่งที่เด่นขึ้นมาไม่ใช่เพียงความสามารถในการปรากฏตัวอย่างสงบหากคือคุณลักษณะที่สถาบันอาจต้องการให้สังคมเห็นความเรียบร้อยของพิธีความเมตตาตาเชิงอุปถัมภ์และความร่วมสมัยที่ไม่ละทิ้งจารีดหากบทบาทที่ถูกคิดใหม่ตั้งอยู่บน3แกนนี้เราจะ
00:32:27เห็นแรงดึงดูดแบบนุ่มที่ช่วยประคับประคองทุนสัญลักษณ์ของสถาบันให้สอดรับทั้งกับภารกิจภายในราชสำนักและความคาดหวังของสังคมคำถามสำคัญถัดมาคือสัญญาณการยอมรับในเชิงพิธีหน้าตาเป็นอย่างไรโดยหลักแล้วมี3สัญญาณย่อยการเรียงลำดับที่คงที่StablePresidentการเชื่อมต่อของภารกิจFunctionalLinkageและการปรากฏแบบเชื่อมสะพานappearancesสัญญาณแรกบอกถึงขอบเขตหน้าที่ที่ชัดขึ้นเรื่อยๆสัญญาณที่2บอกถึงการร่วมงานกับกลไกอื่นของราชสำนักอย่าง
00:33:04เป็นระบบและสัญญาณที่3บอกถึงบทบาทสื่อกลางระหว่างพิธีกับชีวิตประจำวันทั้งหมดนี้ไม่ได้วัดด้วยเสียงปรบมือหากวัดด้วยความสงบที่เพิ่มขึ้นในความรู้สึกของสาธารณะว่ามีสิ่งหนึ่งกำลังถูกดูแลอย่างต่อเนื่องแน่นอนสมการราชสำนักมิใช่สูตรสำเร็จการอ่านสัญญาณต้องยอมรับพื้นที่ของความไม่แน่นอนและเคารพเส้นแบ่งระหว่างข้อเท็จจริงกับการตีความแต่ความไม่แน่นอนมิได้ทำให้เราตาบอดตรงกันข้ามมันบังคับให้เรามีวินัยของสายตามองยาวกว่าข่าวรายวัน
00:33:42และเข้าใจว่าในสถาบันที่ยืนยาวเวลาคือเครื่องมือสื่อสารชิ้นสำคัญที่สุดหากภาพ1ภาพปรากฏเหมือนเดิม10ครั้งความหมายของมันย่อมชัดกว่าภาพที่ดังมากครั้งเดียวแล้วจางหายท้ายที่สุดสมการลำดับชั้นพิธีทำพลวัตของมนุษย์จะทำงานได้ก็ต่อเมื่อทุกตัวแปรรับใช้เป้าหมายเดียวกันคือเสถียรภาพเชิงความหมายของสถาบันเมื่อเป้าหมายนี้ชัดบทบาทของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราฎกัลยาณีจะไม่จำเป็นต้องถูกนิยามด้วยวาทกรรมใหญ่โตหากถูกยืนยันด้วยความเสมอของจังหวะความ
00:34:21สุภาพของการปรากฏและความเป็นประโยชน์ของงานอุปถัมภ์เมื่อทั้ง3ประสานกันเรื่องเล่าใหม่จะค่อยๆเกิดขึ้นโดยธรรมชาติและได้รับการยอมรับเพราะสังคมสัมผัสได้มากกว่าถูกบอกให้เชื่อจากสมัครการภายในนี้เราจะเคลื่อนไปยังมิติภายนอกความรู้สึกของสังคมไทยและสายตานานาชาติเพื่อดูว่าบทบาทที่กำลังก่อรูปนั้นสะท้อนกลับอย่างไรในความนิยมความไว้วางใจและทุนสัญลักษณ์ของประเทศในระยะกลางเมื่อภาษาของพิธีเริ่มทำงานผลสะท้อนแรกย่อมปรากฏในหัวใจ
00:34:58ของผู้คนภายในประเทศก่อนจะเดินทางต่อไปยังสายตาของโลกภาพของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราชกัลยาณีจึงมิได้อยู่โดดเดี่ยวในกรอบทองของพิธีหากเดินทางผ่านความทรงจำร่วมความคาดหวังและความกังวลของสังคมไทยที่หลากหลายชีพจรของเรื่องเล่าจึงเต้นพร้อมกัน2จังหวะจังหวะภายในที่ละเอียดอ่อนและจังหวะภายนอกที่ต้องคงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีอันเป็นเอกลักษณ์ในระดับสาธารณะภายในประเทศความรู้สึกแบ่งเป็นหลายชั้นแรกคือความคุ้นชินกับพิธีทำซึ่งทำให้ผู้คนรู้
00:35:35สึกถึงความต่อเนื่องและความสงบเมื่อถูกออกแบบด้วยวินัยของจังหวะความไว้วางใจจะสะสมแบบเงียบงันราวสายน้ำที่ซึมลงดินชั้นที่2คือความอยากรู้ของคนรุ่นใหม่พวกเขาไม่ได้ปฏิเสธพิธีอีกหากถามหาความหมายร่วมสมัยงานอุปถัมภ์ที่จักต้องได้คุณค่าที่วัดผลได้การสื่อสารที่เข้าใจง่ายและไม่ไกลตัวเมื่อภาษาแห่งชีวิตประจำวันเชื่อมกับภาษาแห่งพิธีได้ดีความต่างรุ่นจะกลายเป็นสะพานมิใช่รอยแยกชั้นที่3คือผู้สังเกตการที่ระมัดระวังพวกเขาต้องการ
00:36:13เห็นว่าสัญญาทั้งหลายมีความสม่ำเสมอเพียงใดไม่ใช่เพียงเหตุการณ์โดดเดี่ยวครั้งคราวความสม่ำเสมอจึงเป็นใบรับรองความน่าเชื่อถือที่ดีที่สุดหากมองผ่านมิติของสื่อและวัฒนธรรมสาธารณะภาพหนึ่งภาพที่วางอย่างพอดีอาจปลอบประโลมหัวใจผู้คนมากกว่าถ้อยคำยืดยาวถ้อยคำย่อมเลือนคาบจำย่อมคงอยู่การจัดวางตำแหน่งยืนลำดับขบวนสายตาและท่วงท่าที่สุภาพคือบทกวีที่เขียนด้วยเวลาเมื่อภาษากายซ้ำอย่างมีวินัยภาพจำของความนิ่งสุภาพและเป็นประโยชน์ย่อมค่อยๆ
00:36:51ติดแน่นกลายเป็นทุนสัญลักษณ์ที่พาสังคมผ่านช่วงเวลาซับซ้อนโดยไม่ต้องโต้เถียงเสียงดังในระดับนานาชาติสายตาของโลกอ่านราชสำนักผ่านเลนส์ของซอฟาวัฒนธรรมและความต่อเนื่องทางสถาบันมากกว่าจะอ่านถ้อยคำการเมืองแบบวันต่อวันบทบาทเชิงหน้าที่ที่มุ่งงานอุปถัมภ์วัฒนธรรมและความร่วมมือมนุษยธรรมจึงเป็นภาษาสากลที่เข้าใจง่ายและเป็นมิตรการปรากฏตัวอย่างพอดีไม่มากไปจนกลบเสียงส่วนรวมและไม่น้อยไปจนภาพไม่ชัดจะทำหน้าที่เหมือนหน้าต่างที่เปิดให้
00:37:30โลกเห็นความงามของแบบแผนสยามกับความร่วมสมัยเดินเคียงกันได้โดยไม่สูญเสียแก่นต่อจากนี้คือกรอบการสื่อสาร3ชั้นที่ช่วยให้ภาพสะท้อนทั้งในและนอกประเทศยืนอยู่บนดินเช่นเดียวกันชั้นแรกคือถ้อยคำที่พอดีอีกถ้อยคำต้องสุภาพสั้นกระชับวางน้ำหนักที่คุณค่าและความร่วมมือมากกว่าความตื่นเต้นของเหตุการณ์ชั้นที่2คือภาพที่สม่ำเสมอภาพต้องคงจังหวะเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้ความหมายยึดเกาะในใจผู้คนโดยธรรมชาติชั้นที่3คือผลลัพธ์สัมผัสได้
00:38:07งานอุปถัมภ์ควรมีเรื่องเล่าจากพื้นที่จริงชีวิตที่ดีขึ้นชุมชนที่เข้มแข็งขึ้นโครงการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจริงเพราะผลลัพธ์คือภาษาที่ทรงพลังยิ่งกว่าคำขวัญแม้กระนั้นเราต้องระวังแรงดึงดูดของความหวือหวาข่าวที่ดังเกินไปอาจเผาภาพจำให้มอดไวการเดินช้าอย่างมีวินัยกลับพาภาพจำอยู่ยาวสิ่งที่ยืนยาวมักเดินช้าจึงไม่ใช่เพียงวลีามหากเป็นยุทธศาสตร์ของความน่าเชื่อถือเมื่อผู้คนเห็นความนิ่งที่ซ้ำกันเห็นความเมตตาที่ทำงานจริงเห็นความร่วม
00:38:43สมัยที่ไม่ละทิ้งพิธีเข็มทิศความรู้สึกจะค่อยๆชี้ไปทางเดียวกันคือทางของความไว้วางใจในมิติความเสี่ยงการสื่อสารใดๆที่เกี่ยวข้องกับราชสำนักจำต้องระวังเสมอเส้นแบ่งระหว่างข้อเท็จจริงกับการตีความควรถูกขีดให้ชัดตำแหน่งทางราชการควรถูกเอ่ยให้ถูกต้องตามมาตรฐานปัจจุบันภาพที่ใช้ควรผ่านการคัดสรรด้วยกาลเทศะและทุกถ้อยคำต้องยืนอยู่ข้างความสุภาพยุทธศาสตร์ที่ยึดหลักข้อมูลก่อนความเห็นหลังจะคุ้มครองเรื่องเล่าไม่ให้ถูกพายุ
00:39:19ข่าวพัดหลงทางท้ายที่สุดผลสะท้อนจากสังคมไทยและสายตานานาชาติจะบอกเราว่าบทบาทที่กำลังก่อลูกของเจ้าคุณพระศินีหน้าอัถพิราชกัลยาณีมีพลังอ่อนเพียงพอหรือไม่ที่จะประคับประคองทุนสัญลักษณ์ของสถาบันให้เสถียรในระยะกลางความสำเร็จจะไม่วัดด้วยจำนวนพลาดหัวข่าวหากวัดด้วยความสงบที่เพิ่มขึ้นในใจผู้คนและความแน่นแฟ้นของสะพานที่เชื่อมพิธีกับชีวิตประจำวันเมื่อ2สิ่งนี้เติบโตพร้อมกันภาพของสยามในสายตาโลกจะยิ่งงดงามสงบสุภาพและร่วมสมัยจากภาพสะท้อนภาย
00:39:59นอกเราจะเข้าสู่ตอนที่7ว่าด้วยระยะยาวและสมการการสืบราชสันตติวงศ์เพื่ออ่านผลเชิงยุทธศาสตร์ในเวลาที่ยาวกว่าว่าความต่อเนื่องความสมดุลและความหวังที่ก่อรูปอยู่ขณะนี้จะทรงอิทธิพลต่อทิศทางการครองราชย์และการสืบราชสันตีวงศ์อย่างไรในกรอบของเหตุและผลที่เคารพต่อข้อเท็จจริงหากมองเรื่องเล่าทั้งหมดในกรอบเวลาที่ยาวกว่าเราจะพบว่าบทบาทที่ถูกคิดใหม่ของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราชกัลยาณีมิได้ยืนอยู่โดดเดี่ยวหากเป็นตัวแปรหนึ่งในสมการที่กว้างกว่ามาก
00:40:37สมการของความต่อเนื่องทางสถาบันการสื่อสารเชิงพิธีและความคาดหวังของสังคมต่ออนาคตของการสืบราชสันตีวงศ์ประเด็นนี้ละเอียดอ่อนจึงควรถูกพิจารณาใน3ชั้นพร้อมกันคือวงเล็บ1กรอบกฎหมายและจารี2ภาษาของพิธีที่สถาปนาความหมายระยะยาวและ3ทุนความไว้วางใจที่สังคมสะสมไว้ผ่านภาพจำและผลลัพธ์เชิงอุปถัมภ์ชั้นแรกกรอบกฎหมายและจารีดกฎเกณฑ์ว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ดำรงอยู่ในระดับตัวบทอันเป็นรากฐานไม่ควรถูกตีความแทนด้วยเสียงเล่าลือหรือความหวือหวาของข่าวใน
00:41:20ชั้นนี้บทบาทของบุคคลใดๆรวมถึงเจ้าคุณพระศินีนาถพิราฎกัลยาณีไม่ได้ไปแตะต้องโครงสร้างทางกฎหมายโดยตรงหากทำงานอยู่ในมิติที่2และ3คือพิธีและความไว้วางใจซึ่งมีหน้าที่ประคองภูมิทัศน์ทางความรู้สึกของสังคมให้สงบและมั่นคงสาระสำคัญคือการแยกอำนาจเชิงตัวบทออกจากพลังอ่อนเชิงความหมายเพื่อให้การอ่านอนาคตไม่สับสนชั้นที่2ภาษาแห่งพิธีในระยะยาวพิธีคือกลไกที่ทำให้ความต่อเนื่องมองเห็นได้ในสายตาสาธารณะเมื่อภาพของเจ้าคุณ
00:42:00พระศินีนาถพิราฎกัลยาณีปรากฏด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอภาษากายที่สุภาพและการจัดวางที่พอดีภาพเหล่านี้ย่อมทำหน้าที่เสริมร้าวจับให้สังคมก้าวผ่านเวลาที่ผันผวนโดยไม่ส่งเสียงมากเกินจำเป็นพิธีจึงเปรียบเหมือนตัวค้ำยันที่ช่วยให้เรื่องเล่าหลักอันได้แก่พระราชกรณียอกิจของพระบรมวงศานุวงศ์สำคัญเช่นพระบาทสมเด็จพระวชิรักษ์เกล้าเจ้าอยู่หัวสมเด็จพระนางเจ้าสุธิดาพัชรสุทธาภิมลักษณ์พระบรมราชินีสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า
00:42:41ัชรกิตติยาภาและพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวรรณวรีนารีรัตน์ดำเนินไปบนเวทีที่นิ่งเรียบร้อยและคงเสถียรชั้นที่3ทุนความไว้วางใจของสังคมในระยะยาวทุนสัญลักษณ์นี้ได้เกิดจากคำประกาศครั้งเดียวหากเกิดจากความเสมอต้นเสมอปลายของภาพและผลลัพธ์เชิงอุปถัมภ์เมื่อภารกิจด้านวัฒนธรรมสุขภาวะหรือการพัฒนาชุมชนที่เจ้าคุณพระศินีหน้าพิราฎกัลยาณีสัมพันธ์ด้วยส่งผลสัมผัสได้จริงเช่นโครงการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องคนในพื้นที่ได้รับประโยชน์อย่างชัดเจนความไว้วางใจจะค่อยๆ
00:43:23เพิ่มขึ้นเหมือนนำใต้ดินช่วยรองรับเรื่องเล่าหลักของสถาบันในยามที่ข่าวสารภายนอกผันผวนความไว้วางใจจึงทำงานเป็นกันชนทางอารมณ์ของสังคมกรอบฉากทัศนีสเพื่ออ่านอนาอนาคตอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการสรุปแบบตายตัวเราเสนอฉากทัศ3แบบที่ยึดโยงกับข้อเท็จจริงและตักกเชิงพิธีอีกฉากทัศน์ที่1ความต่อเนื่องยาวlongcontinuityจังหวะพิธีคงที่ภาพจำสาธารณะนิ่งและสุภาพงานอุปถัมภ์ดำเนินอย่างสม่ำเสมอโดยเน้นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ในฉากทัศนี้บทบาทที่ถูกคิดใหม่ทำงาน
00:44:04เป็นกลไกบำรุงทุนความไว้วางใจไม่โดดเด่นเกินไปแต่ขาดไม่ได้ผลลัพธ์คือสังคมมีสมาธิและมองอนาคตของสถาบันด้วยความสงบฉากทัศที่2การกลมกลืนเชิงปรับตัวDartheHarmonyจังหวะพิธีคงแก่นเดิมแต่มีการแปลภาษาเข้าหาคนรุ่นใหม่มากขึ้นผ่านพื้นที่การเรียนรู้สื่อสารร่วมสมัยและวัฒนธรรมร่วมสร้างโครationโดยยังรักษากาลเทศะในฉากทัดนี้บทบาทเชิงหน้าที่ของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราฎกัลยาณีสะพานเชื่อมพิธีกับชีวิตประจำวันชัดขึ้นส่งผลให้คนต่างรุ่นพบกันกลางทางโดยไม่บั่นทอน
00:44:46จรีดฉากทัศที่3การใช้เสียงมากเกินexposurousภาพจำปรากฏถี่เกินความจำเป็นหรือการสื่อสารย้ายจากความหมายไปสู่ความหวือหวาจนทำให้จังหวะพิธีเสียสมดุลผลคือทุนความไว้วางใจศึกก่อนแม้ได้รับความสนใจระยะสั้นแต่ระยะและยาวกลับเกิดความล้าและแรงต้านฉากทัศนี้เตือนให้คุมวินัยของจังหวะและน้ำหนักคำพูดเสมอตัวชี้วัดเชิงนุ่มsoftindicatorsสำหรับมองเส้นระยะยาวเพื่อไม่ให้การอ่านอนาคตอาศัยความรู้สึกเพียงอย่างเดียวควรกำหนดคุณภาพของ
00:45:25จังหวะเป็นตัวชี้วัดได้แก่กความสม่ำเสมอของการปรากฏไม่ใช่ความถี่แต่คือการคงบุคลิกภาพพิธีเดียวกันทุกครั้งค่ะความเชื่อมโยงตรงของงานแต่ละภารกิจอุปถัมภ์ต้องเชื่อมกันเป็นโครงเรื่องเดียวมิใช่จุดไฟคนละกองคะความชัดของผลลัพธ์มีเรื่องเล่าจากพื้นที่จริงที่ยืนยันว่าคุณค่าถูกดูแลอยู่งาความพอดีในสายตานานาชาติปรากฏอย่างมีศักดิ์ศรีไม่มากไปไม่น้อยไปความสัมพันธ์กับแกนเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์หัวใจคือการทำให้พื้นที่สาธารณะรู้สึกถึง
00:46:02ความต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องอธิบายเกินตัวบทบทบาทเชิงหน้าที่ของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราชกัลยาณีในฐานะพลังอ่อนเมื่อรักษาจังหวะพิธีผลงานอุปถัมภ์และการสื่อสารแบบพอดีจะทำให้ภูมิทัศน์ทางอารมณ์ของสังคมมีเสถียรภาพนี่คือเงื่อนไขที่เอื้อต่อการมองอนาคตเรื่องการสืบราชสันตีวงศ์ด้วยความสงบและเปิดพื้นที่ให้พระราชกรณียกิจของพระบรมวงศ์สานุวงศ์สำคัญดำเนินไปโดยได้รับความร่วมมือทางความรู้สึกจากสังคมบทเรียนจากอดีตและศาลคดีร่วมสมัยชี้ว่าสถาบันที่ยืนยาวล้วนวาง
00:46:42สะพานด้วยวัสดุ3ชั้นตัวบทที่มั่นคงพิธีที่มีวินัยและเรื่องเล่าที่จับต้องได้ในชีวิตผู้คนเมื่อ3ชั้นนี้เสริมกันความต่อเนื่องจึงไม่ใช่เพียงแนวคิดหากเป็นประสบการณ์ตรงที่ประชาชนรับรู้ในทุกๆวันสรุประยะยาวหากถามว่าบทบาทที่ถูกคิดใหม่จะส่งผลต่อเส้นทางยาวของสถาบันอย่างไรคำตอบคือไม่ใช่ด้วยการเปลี่ยนตำแหน่งหากด้วยการเพิ่มแรงเฉื่อยของความสงบให้สังคมความสงบที่เกิดจากจังหวะพิธีที่คงเส้นคงวาภารกิจอุปถัมภ์ที่มีผลลัพธ์จริงและถ้อย
00:47:21คำสื่อสารที่สุภาพและพอดีเมื่อแรงเฉื่อยนี้สะสมพอเรื่องเล่าเกี่ยวกับอนาคตของสถาบันรวมถึงบทสนทนาเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์จะเกิดขึ้นบนพื้นดินที่มั่นคงและเป็นธรรมชชาติด้วยพื้นดินเช่นนี้เราพร้อมก้าวสู่ตอนสุดท้ายบทสรุปเชิงปรัชญาและคำถามถึงผู้ชมเพื่อถักท้อความหมายกลับสู่ใจกลางของเรื่องบทบาทไม่ได้เกิดจากตำแหน่งเพียงอย่างเดียวแต่จากคุณค่าที่สังคมร่วมกันมองเห็นและมอบความไว้วางใจให้มันดำรงอยู่เมื่อเราถอยหลัง1ก้าวและ
00:47:56มองภาพรวมทั้งหมดจากการวางหมุดเวลาที่ตรวจสอบได้การอ่านพระราชประสงค์ที่ซ่อนอยู่ในภาษาพิธีการออกแบบบทบาทที่ถูกคิดใหม่ตลอดจนสมัครการลำดับชั้นพิธีทำพลวัตของมนุษย์และคลื่นสะท้อนในสังคมกับสายตานานาชาติเราพบความจริงเรียบง่ายข้อหนึ่งว่าบทบาทไม่ได้เกิดจากคำประกาศหากค่อยๆงอกงามจากวินัยของจังหวะและความเชื่อใจที่สังคมมอบให้สิ่งที่ยืนยาวมักเดินช้าไม่ใช่เพียงวลีปลอบโยนแต่เป็นกฎของความหมายในสถาบันที่ยืนยาวเจ้าคุณพระศินีนาถ
00:48:33พี่ศิราชกัลยาณีจึงถูกอ่านได้ในฐานะสะพานเงียบที่วางข้ามระหว่างพิธีกับชีวิตระหว่างอดีตกับปัจจุบันระหว่างความทรงจำกับความหวังบทบาทที่มีพลังอ่อนมิได้แย่งเวทีหากค้ำยันเวทีให้มั่นคงด้วยความสม่ำเสมอที่ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าคุณค่าบางอย่างกำลังถูกดูแลอยู่เสมอพิธีคือบทกวีที่เขียนด้วยเวลาส่วนงานอุปถัมภ์คือร้อยแก้วที่เขียนด้วยชีวิตเมื่อบทกวีกับร้อยแก้วเดินจังหวะเดียวกันเรื่องเล่าร่วมของสังคมย่อมมีดนตรีในตัวเองท้ายที่สุดสิ่ง
00:49:11ที่เราควรถามมิใช่เพียงว่าบทบาทใหม่จะเป็นอะไรแต่ควรถามว่าบทบาทนั้นจะทำให้ผู้คนสงบและเห็นคุณค่าอะไรเพิ่มขึ้นความต่อเนื่องความเมตตาหรือความร่วมสมัยที่สุภาพหากคำตอบอยู่ในแนวทางนี้ความหมายที่ยืนยาวจะเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องร้องขอเสียงดังเพราะความไว้เนื้อเชื่อใจเติบโตได้ดีที่สุดในที่ที่เงียบและแน่นแฟ้นแล้วสำหรับคุณผู้อ่านและผู้ชมที่ร่วมเดินทางมากับเรื่องนี้คุณมองเห็นอะไรในจังหวะพิธีที่เกิดขึ้นคุณตีความบทบาทของเจ้าคุณ
00:49:47พระศินีนาอัถพิราชกัลยาณีอย่างไรในฐานะสะพานระหว่างพิธีกับชีวิตคุณเชื่อว่าสังคมไทยต้องการคุณค่าใดให้ชัดขึ้นในระยะต่อไปเราขอชวนคุณเขียนความคิดทฤษฎีและข้อสังเกตด้วยภาษาที่สุภาพและรับผิดชอบต่อข้อเท็จจริงเพราะเรื่องเล่าที่ดีเกิดจากหลายสายตาแต่เดินไปข้างหน้าด้วยหัวใจเดียวหากคุณอยากติดตามพัฒนาการของเรื่องนี้ต่อไปโปรดกดติดตามกดถูกใจและเปิดการแจ้งเตือนทุกการรับชมและทุกความเห็นของคุณคือส่วนหนึ่งของการร่วมเขียนบทกวีของพิธีและ
00:50:26ร้อยแก้วของชีวิตร่วมกันบนผืนแผ่นดินนี้เมื่อเรื่องเล่าดำเนินมาถึงบทสรุปเราอยากชวนคุณผู้ชมผู้สังเกตการและผู้ร่วมสร้างความทรงจำร่วมก้าวจากพื้นที่ของการรับชมสู่พื้นที่ของการไตร่ตรองและสนทนาอย่างสุภาพรับผิดชอบและตั้งอยู่บนข้อเท็จจริงประเด็นของเราไม่ใช่เพียงจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปหากคือเราจะอ่านสัญญาณที่เห็นอย่างไรเพื่อให้ความหมายที่ยืนยาวก่อรูปขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติคำถามนำสนทนาเพื่อการแลกเปลี่ยนเชิงสร้างสรรค์
00:51:011คุณมองเห็นจังหวะพิธีของราชสำนักอย่างไรในช่วงที่ผ่านมาจังหวะใดทำให้รู้สึกถึงความต่อเนื่องมากที่สุดและจังหวะใดทำให้รู้สึกถึงการปรับตัวโดยไม่ละทิ้งจารีดสภาพของเจ้าคุณพระศินีนาถพิราฎกัลยาณีในฐานะพลังอ่อนที่เชื่อมพิธีกับชีวิตประจำวันสร้างความสงบหรือความเข้าใจอะไรใหม่ๆให้คุณบ้างหากต้องเลือกคีย์เวิร์ด1คำเพื่อสรุปบทบาทนี้คุณจะเลือกคำว่าอะไร3ในระดับชุมชนหรือพื้นที่จริงงานอุปถัมภ์แบบใดที่คุณคิดว่าจะสัมผัสได้และ
00:51:42สร้างเรื่องเล่าร่วมเชิงบวกได้ยาวนานที่สุดวัฒนธรรมฐานรากสุภาวญิงและเด็กการศึกษากับทักษะอาชีพหรือความร่วมมือมนุษยธรรมเพราะเหตุใด4สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความหมายร่วมสมัยคุณอยากเห็นภาษาแปลพิธีเป็นชีวิตในรูปแบบใดบ้างพื้นที่การเรียนรู้สื่อสารร่วมสมัยเวทีวัฒนธรรมหรือกิจกรรมร่วมสร้างที่รักษากาลเทศะ5ในสายตานานาชาติคุณคิดว่าภาพแบบใดพอดีที่สุดสำหรับการสื่อสารอัตลักษณ์สยามงดงามสุภาพและร่วมสมัยโดยไม่มากหรือน้อยเกินไปแนวทางแลกเปลี่ยน
00:52:23อย่างรับผิดชอบเราขอชวนทุกความเห็นยืนบนหลักข้อมูลก่อนความเห็นหลังหมายถึงให้ยึดหมุดเวลาที่ตรวจสอบได้เป็นฐานแล้วค่อยขยายด้วยการตีความส่วนบุคคลเพื่อให้บทสนทนาเป็นสะพานไม่ใช่รอยแยกโปรดใช้คำนำหน้าทางราชาศัพท์ตามมาตรฐานปัจจุบันเช่นเจ้าคุณพระศินีนาถพิราชกัลยาณีและระบุบริบททางเวลาอย่างชัดเจนเมื่อพูดถึงเอกสารหรือเหตุการณ์ในอดีตการรักษากาลเทจะไม่ใช่ข้อจำกัดของความคิดสร้างสรรค์หากคือกรอบที่ทำให้ความคิดสร้างสรรค์น่า
00:52:59เชื่อเชื่อถือและอยู่ได้นานจากผู้ชมสู่ผู้ร่วมเขียนเรื่องเล่าที่ดีของสถาบันเกิดจากการเดินทางร่วมกันระหว่างพิธีกับชีวิตระหว่างบทกวีของเวลากับร้อยแก้วของประสบการณ์หากคุณมีเรื่องเล่าจากพื้นที่จริงภาพจำที่ช่วยปลอบประลมหรือสร้างแรงบันดาลใจประเด็นชวนคิดที่อิงข้อเท็จจริงหรือบทเรียนจากชุมชนของคุณเราอยากชวนให้นำมาแบ่งปันเพื่อพาเรื่องจากจอให้ลงสู่ชีวิตและพาคุณค่าจากพิธีให้ขึ้นสู่ใจก้าวต่อไปของซีรียสตอนถัดไปเราจะคัด
00:53:37สรรข้อคิดเห็นสำคัญที่ยืนบนฐานข้อเท็จจริงและกาลเทศะมาถักทอเป็นบทสรุปเชิงสาธารณะว่าคนดูมองเห็นอะไรเหมือนหรือต่างกันจุดร่วมทางคุณค่าคืออะไรและสะพานใดที่ควรยาวขึ้นแข็งแรงขึ้นเพื่อเชื่อมอดีตกับอนาคตให้แน่นแฟ้นกว่านี้เป้าหมายของเรายังคงเดิมไม่ใช่การเร่งคำตอบใหญ่โตแต่คือการค่อยๆสั่งสมแรงเฉื่อยของความสงบจนความไว้วางใจยืนได้ด้วยตัวของมันเองทิ้งท้ายความหมายที่ยืนยาวไม่เกิดจากเสียงดังชั่วคราวหากเกิดจากจังหวะที่สม่ำเสมอและถ้อย
00:54:15คำที่สุภาพตราบใดที่เราร่วมกันดูแล2สิ่งนี้เรื่องเล่าที่เราร่วมเขียนจะงอกงามอย่างเป็นธรรมชาติและสะท้อนคุณค่าที่เราต้องการเห็นในบ้านเมืองเดียวกัน
