ทั้งนี้ สำนักพระราชวังจะประกาศแต่งตั้งหม่อมเจ้าหญิงขึ้นดำรงตำแหน่งใหม่ในวันที่ 29 เมษายนนี้

พระราชวังขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวาย พระพรสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้า ทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิรตมางกูรศิริวิบูลย์พระราชกุมาร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติวันที่ 29 เมษายน 2566 ผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์หน่วย ราชการในพระองค์ 29 เมษายนวันคล้ายวันประสูติพระองค์เจ้า ทีปังกรรัศมีโชติพระโอรสในสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ บดินทรเทพยวรางกูรประเสริฐเมื่อวันศุกร์ ที่ 29 เมษายน ปีพุทธศักราช 2548 เวลา 18.35 นณโรงพยาบาลศิริราชคณะแพทย์ถวาย การประสูติโดยการผ่าตัดเมื่อได้ประสูติ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติทรงมีน้ำหนัก

2,680 กรัมความยาวพระองค์ 47 เซนติเมตร รับพระเศียร 31 เซนติเมตรลืมพระเนตรเวลา 19:00 นมีพระพรรณอนามัยสมบูรณ์แข็งแรง ประเทศโตพระนาจิกโตง วันที่ 15 มิถุนายน 2548 บาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระ บรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระ ราชทานพระราชหัตถเลขาขนานพระนามว่าพระ เจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ โดยทรงพระมหากรุณาธิคุณอธิบายพระนามว่า ผู้ทำประทีปคือปัญญาให้สว่างกระจ่างแจ้ง ผู้ทำเกาะคือที่พึ่งให้รุ่งเรืองโชติ ช่วง สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีปังกร รัศมีโชติ มหาวชิรตศิริวิปุณกับราชกุมารเป็นพระ ราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวจรเกล้าเจ้า

อยู่หัว ประสูติแต่ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์สุวะดีขณะ ดำรงพระอิสริยยศเป็นหม่อมศรีรัศมิ์มหิดลณ อยุธยาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารถือเป็นราชธานีลำดับแรก ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบ ราชสันตติวงศ์ปราบพุทธศักราช 2467 พระองค์มีพระเชษฐภคินีต่างพระมารดา 2 พระ องค์คือสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงราชสารินี สิริพัฒน์ มหาวชิรราชธิดาและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าศิริวรรณวดีนารีรัตน์ราชกัญญา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีปังกร รัศมีโชติ มหาวชิรตะมังกูรศิริวิมลราชกุมารพระองค์ ถือว่าเป็นรัฐทายาทโดยสันนิษฐานลำดับแรก ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบ

ราชสันตติวงศ์พระพุทธศักราช 2467 สถาบัน เป็นสถาบันสำคัญของประชาชนชาวไทยและอยู่ คู่สังคมไทยมาอย่างช้านานไม่ว่าประเทศจะ ประสบปัญหาใดๆแต่สถาบันไม่เคยห่างหายไป จากสังคมขั้นตอนหนึ่งของการคงผู้อย่างต่อ เนื่องก็คือการสืบราชสันตติวงศ์หรือการ สืบราชสมบัติที่ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษร ผ่านเอกสารสำคัญ 2 ฉบับคือรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2550 โดยมาตรา 22 ระบุว่าการสืบราชสมบัติให้เป็นไปโดยนัยยะ แห่งกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบ ราชสันตติวงศ์ พุทธศักราช 2467 กฎมณเฑียรบาลกฎหมายที่รักษาระเบียบวินัย ความเรียบตลอดจนความปลอดภัยภายในพระ ราชสำนักและพระมหากษัตริย์กฎมณเฑียรบาลมี เนื้อหาสาระในหลายส่วนแต่ส่วนที่สำคัญที่

สุดที่คนรู้จักและพูดถึงกันมากก็คือกฎ มณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ กฎมณเฑียรบาลเมื่อด้วยการสืบ ราชสันตติวงศ์พุทธศักราช 2467 ถูกบัญญัติ ขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า รัชกาลที่ 6 กฎมณเฑียรบาลถูกใช้ตั้งแต่ 11 พฤศจิกายน 2467 โดยสาระสำคัญคือการกำหนดวิธีการ เลือกและการตั้ง รัชทายาท พระมหากษัตริย์ตั้งรัชทายาทเป็นกษัตริย์ องค์ต่อไป กฎมณเฑียรบาลกำหนดให้สมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวมีอำนาจและสิทธิ์ที่จะแต่งตั้งเจ้านาย เชื้อพระบรมราชวงศ์พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ให้เป็นรัชทายาทสุดแท้แต่จะทรงพระราชดำริ เห็นสมควรและเป็นที่ไว้วางพระอาจารย์ฤทัย ได้และเมื่อได้ถึงเวลาจำเป็นก็ให้พระ

รัชทายาทพระองค์นั้นเสด็จขึ้นทรงราชสืบ ราชสันตติวงศ์สนองพระองค์สมเด็จพระเจ้า อยู่หัวในพระบรมโกศโดยทันทีอย่างไรก็ตาม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีอำนาจและสิทธิ ที่จะส่งถอนพระราชทายาทออกจากตำแหน่งได้ และห้ามมีให้นับสตรีเป็นผู้สืบ ราชสันตติวงศ์ กษัตริย์อายุไม่ถึง 20 ปีให้ตั้งผู้ สำเร็จราชการในกรณีที่สมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวเสด็จขึ้นทรงราชสืบสันตติวงศ์ตั้งแต่ ยังทรงพระเยาว์คือมีอายุยังไม่ครบ 20 พรรษาบริบูรณ์ให้เสนาบดีพร้อมกันเลือก เจ้านายเชื้อพระบรมราชวงศ์พระองค์หนึ่ง ขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทนสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวจนกว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่

หัวจะมีพระชนมายุครบ 20 ปีจึงให้ผู้ สำเร็จราชการแผ่นดินผลจากหน้าที่ รัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์นับตั้งแต่ รัฐธรรมนูญฉบับปี 2534 จนถึงร่าง รัฐธรรมนูญฉบับปี 2559 เนื้อความที่ เกี่ยวข้องกับการสืบราชสมบัติอย่างไม่เคย ถูกเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข องคมนตรีเสนอผู้สืบราชสมบัติหากไม่มีพระ ราชทายาทโดยปกติแล้วได้ถึงพระประมุขของ ประเทศจะต้องไม่มีสภาพสุญญากาศหากตำแหน่ง ประมุขของประเทศว่างลงก็จะต้องมีการสืบ ราชสมบัติหรือมีผู้สำเร็จราชการแทนพระ องค์เป็นการชั่วคราว รัฐธรรมนูญมาตรา 23 กรณีบัลลังก์ว่างลง หากพระมหากษัตริย์ทรงตั้งพระรัชทายาทตาม กฎมณเฑียรบาลให้คณะรัฐมนตรีแจ้งให้ประธาน

รัฐสภาเพื่อเรียกประชุมรัฐสภาให้ระดับ ทราบให้ประธานในรัฐสภาอัญเชิญองค์ รัชทายาทขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ต่อไปแต่ ในกรณีบัลลังก์ว่าโดยไม่ได้มีการตั้งองค์ รัชทายาทไว้ให้คณะองคมนตรีเสนอชื่อผู้สืบ สันตติวงศ์ตามกฎมณเฑียรบาลโดยจะเสนอพระ ราชธิดาก็ได้ บัลลังก์ว่าง ประธาน องคมนตรีคือผู้สำเร็จ ราชการชั่วคราว ในกรณีที่ยังไม่มีการอัญเชิญพระรัชทายาท หรือเสนอผู้สืบสันตติวงศ์ขึ้นเป็นพระ มหากษัตริย์ตามมาตรา 24 รัฐธรรมนูญ 2550 บัญญัติไว้ว่าให้ประธานองคมนตรี เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการ ชั่วคราวเป็นพลางก่อนแต่กรณีที่มีการตั้ง ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไว้ก่อนหน้า

แล้วให้ผู้นั้นเป็นผู้สำเร็จราชการต่อไป ทั้งนี้ในกรณีที่ประธานองคมนตรีเป็นผู้ สำเร็จราชการแทนพระองค์ให้คณะองคมนตรี เรียกองคมนตรีคนหนึ่งขึ้นทำหน้าที่ประธาน โออิชิเป็นการชั่วคราวไปทางก่อน การแก้กฎมณเฑียรบาลความจากหมวดที่ 7 ว่า ด้วยการแก้กฎมณเฑียรบาลได้บัญญัติไว้ว่า มาตรา 19 พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราวุธ เจ้าอยู่หัวได้ส่งตรากฎมณเฑียรบาลนี้ไว้ ให้เป็นราชชนยุติธรรมอันมั่นคงเพื่อบำรุง พระบรมราชาศจักรีวงศ์ไว้ชั่วกาลนานและได้ ทรงใช้พระวิจารณญาณโดยสุขุมประชุมทั้ง โบราณราชประเพณีแห่งกรุงสยามตามที่ได้เคย

มีปรากฏมาในโบราณราชประวัติทั้งประเพณี ตามที่โลกนิยมในสมัยนี้เข้าไว้พร้อมแล้ว ฉะนั้นหากว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ ใดในอนาคตสมัยช่วงพระราชดำริจะแก้ไขหรือ เพิกถอนข้อ 1 ข้อใดแห่งกฎมณเฑียรบาลนี้ก็ ให้ส่งคำนึงถึงพระอุปการะคุณแห่งพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ผู้ทรงตรากฎ มณเฑียรบาลนี้ขึ้นไว้แล้วได้ทรงปฏิบัติ ตามข้อความในมาตรา 20 แห่งกฎมณเฑียรบาล นี้ เธอ มาตรา 20 ถ้าแมวเมื่อใดสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวทรงพระราชดำริว่ามีเหตุจำเป็นที่จะ ต้องแก้ไขหรือพวกถอนข้อความใดๆแม้แต่ส่วน น้อยหนึ่งในกฎมณเฑียรบาลนี้ไซต์ท่านว่า

ให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงนักประชุมองค์ พระมนตรัยสภาให้มีองคมนตรีมาในที่ประชุม นั้นไม่น้อยกว่า 2 ส่วนใน 3 แห่งจำนวน องคมนตรีทั้งหมดแล้วและพระราชทานข้อความ อันมีพระราชประสงค์จะให้แก้ไขหรือเพิกถอน นั้นให้สภาปรึกษากันและถวายความเห็นด้วย ความจงรักภักดีซื่อสัตย์สุจริตถ้าและ องคมนตรีมีจำนวนถึง 2 ส่วนใน 3 แห่งผู้ ที่มาประชุมนั้นลงความเห็นว่าควรแก้ไข เฉลิมพระถอนตามพระราชประสงค์ได้แล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงค่อยมีพระบรมราชโองการให้แก้ไขหรือ เพิกถอนแต่ถ้าแม้ว่าองคมนตรีที่มาประชุม นั้นมีผู้เห็นควรให้แก้ไขหรือเพิกถอนเป็น

จำนวนไม่ถึง 2 ใน 3 แล้วไซร้ก็ขอให้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระขันติระงับ พระราชดำริที่จะทรงแก้ไขหรือพวกถอนนั้น ไว้เถิด สายของการสืบราชสันตติวงศ์ตามกฎ มณเฑียรบาล 6 ลำดับแรกตามรัฐธรรมนูญณวันที่ 13 ตุลาคม โดย 59 ลำดับที่ 1 เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติลำดับ ที่ 2 กมราชาลิณีสิริพัฒน์ลำดับที่ 3 เจ้าฟ้า ศิริวัณณวรีลำดับที่ 4 กรมสมเด็จพระ เทพรัตน์ราชสุดาลำดับที่ 5 กรมพระ ศรีสว่าง วัด และลำดับที่ 6 หม่อมเจ้า นวพรรณ กดมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบ ราชสันตติวงศ์พระพุทธศักราช 2467 1 ในกรณีที่บัลลังก์ว่างลงและเป็น กรณีที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งพระ

ราชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบ ราชสันตติวงศ์พระพุทธศักราช 2467 แล้วหาก ไม่ได้ทรงแต่งตั้งพระราชทายาทไว้จะเสนอ พระนามพระราชธิดาก็ได้ตามรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 หมวด 2 พระมหากษัตริย์มาตรา 21 ข้อที่ 2 การเสนอพระนามพระราชธิดาต่อ ราชบัลลังก์ได้มีการแก้ไขและรัฐธรรมนูญมา ตั้งแต่ปี 2517 แล้วดังนั้นจึงนับพระ ราชธิดาของไทยตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เป็นต้นมาในการสืบราชสันตติวงศ์ตาม รัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวด้วย พระราชวังขอเชิญชวน ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้า ลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ

มหาวชิรตมางกูรสิริวิปุณราชกุมารเนื่องใน โอกาสวันคล้ายวันประสูติวันที่ 29 เมษายน 2566 ผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์หน่วย ราชการในพระองค์ 29 เมษายนวันคล้ายวันประสูติพระองค์เจ้า ทีปังกรรัศมีโชติพระโอรสในสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรประสูติเมื่อวันศุกร์ ที่ 29 เมษายน ปีพ.ศ 2548 เวลา 18.35 นณโรงพยาบาลศิริราชคณะแพทย์ถวาย การประสูติโดยการผ่าตัดเมื่อได้บัตร ส่วน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *