ค่ะสำหรับใครนะจะต้องใช้เส้นทางบริเวณหน้าวัดบัวขวัญที่จังหวัดนนทบุรีหรือต้องใช้ทางด่วนตรงงามวงศ์วานนั้นก็คงจะต้องสะดุดตากับป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่เป็นพระฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีพร้อมด้วยภาพของเจ้าของกาสเซหน้าที่ราชการหรือญาณีค่ะถามว่าเพราะเหตุใดจึงต้องสะดุดตานะคะก็เพราะว่าภาพนี้เนี่ยค่อนข้างจะมีความแปลกแตกต่างจะผ้าที่ใช้ในการถวายพระพรทั่วๆไปค่ะซึ่งโดยปกติแล้วภาพของการถวาย
พระพรนะคะก็จะใช้ภาพพระฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ฉายกะรูปคู่กับสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีแต่สำหรับภาพนี้คือภาพสองพระองค์และ1ท่านซึ่งภาพนี้นะคะตอนแรกคนที่ดูก็อาจจะคิดว่าเป็นภาพที่มีการเสด็จมาที่วัดบัวหลวงพระอารามหลวงใช่ไหมคะใจดีแล้วไม่ใช่ไหมคะนี่เลยค่ะAdminจึงมองว่ามีความแปลกค่ะเพราะว่าจริงๆแล้วนะคะภาพนี้เป็นภาพพระราชกรณียกิจเมื่อวันที่16มีนาคม25604ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ
พระนางเจ้าพระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรีณที่ทำการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรีตำบลท่าระหัดอำเภอเมืองจังหวัดสุพรรณบุรีค่ะซึ่งในวันนั้นในการเจ้าคุณรัชนีหน้าที่หลักอริยะนีโดยเสด็จด้วยในวันนั้นค่ะพระองค์เสด็จออกจากพระพลาพิธีไปยังมณฑลพิธีวางศิลาฤกษ์ทรงพระสุหร่ายทรงเจิมแผ่นอิฐทองนาคเงินและแผ่นศิลาฤกษ์และทรงวางแผ่นอีกทีหน้ากากเงิน
และแผ่นศิลาเลือกลงในหลวงก่อนเสด็จไปยังแท่นพิธีทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายอาคารศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรีและเสด็จข้าวครับซาพิธีเพื่อทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ประทับพระราชอาสน์ทรงหลักทักษิโณทุบจากนั้นทรงลงค่าปลานะมาที่ไทยและทรงลงพระนามาภิไธยในแผ่นศิลาแล้วเสด็จไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการมาส่งล่ะก็สงฆ์ก่อนเสด็จออกจากพระปลาพิธีไปอย่างที่ทำการศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรีทรงลงพระปรมาภิไธย
และทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึกแล้วเสด็จไปประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวสนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรีและเสด็จกลับพระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิตค่ะการที่ภาพนี้นะคะไม่ได้เป็นภาพการเสด็จพระราชดำเนินมายังวัดบัวขวัญและมินก็เลยอยากชวนคุณผู้ชมคิดในประเด็นนี้กันข่าวว่าทางวัดบัวขวัญมีจุดมุ่งหมายใดในการขึ้นป้ายพระฉายาลักษณ์ในลักษณะนี้แต่ก่อนที่เราจะไปคิดด้วยกันนะคะและเงินขอเกริ่นประวัติวัด
บัวขวัญจันทร์สักเล็กน้อยค่ะวัดบัวขวัญนั้นแต่เดิมเป็นเพียงสำนักสงฆ์นะคะต่อมาจึงได้รับการพัฒนาเป็นวัดเมื่อปี2435แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์และมีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคที่ดินให้วัดซึ่งผู้บริจาคชื่อว่าในบัวค่ะจะมีการเปลี่ยนชื่อวัดเป็นวัดบัวขวัญเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้บริจาคที่ดินแต่ตัวนี้ปัจจุบันนะคะเจ้าอาวาสคือพระราชนันทมุนีโดยขณะนี้มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรีด้วยซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสนะคะ
ตั้งแต่ปี2537และได้พัฒนาวัดบัวขวัญทั้งในด้านของถาวรวัตถุปรับปรุงภูมิทัศน์ตลอดทั้งให้ความสำคัญด้านการศึกษาระทำทำจนเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีประจำจังหวัดนนทบุรีแห่งที่1และยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมในทุกวันสำคัญนอกจากนี้ยังเปิดเป็นสถานที่เรียนกศนมีการจัดกิจกรรมสำหรับพุทธศาสนิกชนและประชาชนทั่วไปวัดบัวขวัญได้รับการพระราชทานพระบรมราชานุญาติประถาปนาเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญค่ะที่นี้ขอกลับมาที่เรื่องป้ายบิลบอร์ดหน้าวัดกันต่อนะคะซึ่ง
ทีมงานช่องวังหลวงได้ติดต่อไปยังวัดบัวขวัญแล้วโป้ดาราการคอนเฟิร์มว่าภาพนี้เป็นภาพจริงไม่ใช่ผ้าตัดต่อคืนป้ายนี้มาหลายเดือนแล้วและป้ายบิลบอร์ดนี้นะคะก็ไม่ได้ให้สินค้าหรือบริการใดๆเช่าโฆษณาค่ะเพราะเป็นป้ายของวัดบัวขวัญเองค่ะดังนั้นเราจึงมีประเด็นมาชวนคิดดังนี้นะคะประเด็นที่หนึ่งเพราะเหตุใดทางวัดจึงใช้ภาพพระราชกรณียกิจเมื่อปีที่แล้วแทนพระฉายาลักษณ์ในหลวงพระราชินีดังที่สถานที่อื่นๆฉายกันนะคะในการถวายพระพรค่ะประเด็น
ที่สองเป็นไปได้หรือไม่ว่าทางวัดได้เล็งเห็นว่าเจ้าคุณพระสิหน้าที่ราชการยานีย์นั้นเป็นผู้ที่มีคุณูปการทางการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาจึงเลือกรูปที่มีเจ้าคุณพระอยู่ด้วยแต่เด่นที่3แนวทางนี้ค่อนข้างจะสวนทางกับแนวทางของราชสำนักนะคะเพราะเจ้าคุณClassAมีหน้าที่ราชจริยาดีก็ไม่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้ตามประเด็กมาหลายงานแล้วประเด็นที่4เป็นประเด็นเรื่องความเหมาะสมในกรณีที่มีคอมเม้นท์มากมายเกี่ยวกับศีล5เจอเฉพาะในสิ่งข้อที่3การMeizu
ณิชาจะราเวรมณีสิกขาปะทังสะมาทิยามิที่ยังคงเป็นระเด็นที่เปราะบางเมื่อเราต้องพูดถึงสถาบันกันอย่างตรงไปตรงมาค่ะและประเด็นที่5หรืออาจบางทีนะคะวัดบัวขวัญอาจต้องการพูดกันอย่างตรงไปตรงมาก็เป็นได้ว่าที่จริงแล้วเรื่องราวของในหลวงพระราชินีและรัฐสนองเอกก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เราทุกคนต้องยอมรับหรือหากไม่สามารถยอมรับได้ก็ให้คิดเสียว่าเป็นเรื่องส่วนพระองค์อย่าไปโฟกัสมากให้มองที่พระราชกรณียกิจที่พระองค์ท่านทำจะดีกว่า
สำหรับคุณผู้ชมล่ะคะคิดเห็นอย่างไรของนี้พวกเราได้ทราบกันนะคะ
