ความลับดำมืดในรอบ 10 ปี! ถูกเปิดต่อสายตาชาวโลก จนทั้งประเทศต้องตะลึง!

เวลาผ่านไปกว่า10ปีแต่ชื่อของศรีรัตน์สุวดียังคงอยู่ในความทรงจำของคนไทยจำนวนไม่น้อยไม่ใช่เพราะข่าวฉาวไม่ใช่เพราะตำแหน่งในอดีตแต่เพราะเรื่องราวของเธอยังคงทิ้งคำถามที่ไม่มีใครตอบได้จนวันนี้เธออยู่ที่ไหนเธอสบายดีไหมเธอยังได้เจอลูกชายหรือเปล่าเสียงกระซิบเหล่านี้ไม่ได้หายไปพร้อมกับแสงแฟดของอดีตแต่กลับดังก้องอยู่ในใจของผู้คนยิ่งเงียบยิ่งอยากรู้เพราะความเงียบของเธอคือความเงียบที่ทรงพลังไม่มีคำกล่าวไม่มีการปรากฏตัวมี

เพียงความเคารพจากคนที่เคยมองเห็นแววตาเธอในวันนั้นเหมือนดวงจันทร์ที่หายไปจากขอบฟ้าแต่ยังอยู่ในทุกบทกวีทุกคำอธิษฐานเงียบๆแม้เธอไม่ได้เป็นเจ้าหญิงอีกต่อไปแต่ความเป็นมนุษย์ของเธอกลับชัดเจนขึ้นชีวิตที่เคยถูกมองผ่านเลงราชสำนักวันนี้กลับกลายเป็นเรื่องส่วนตัวและนั่นคือสิ่งที่ควรได้รับการเคารพคำถามที่คุณเก็บไว้มานานคำถามที่ไม่มีสื่อกล้าถามวันนี้เราจะพยายามตอบให้คุณด้วยความเคารพความเข้าใจและความจริงเท่าที่ควรเปิดเผย

เพราะเราเชื่อว่าการหายไปบางครั้งก็เป็นการพูดที่ลึกซึ้งที่สุดและบางความเงียบไม่ได้หมายถึงการสิ้นสุดแต่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการมีชีวิตใหม่ปี2557คือปีที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปสำหรับหญิงคนหนึ่งที่เคยอยู่ในศูนย์กลางของแสงไฟศรีรัตน์สุวดีก้าวออกจากพระบรมมหาราชวังพร้อมปล่อยทุกข์ยศถาบรรดาศักดิ์ไว้เบื้องหลังไม่มีคำชี้แจงไม่มีน้ำตาไม่มีคำกล่าวลามีเพียงความเงียบและการหายไปอย่างสิ้นเชิงผู้คนตั้งคำถามว่าเธออยู่ที่ไหนใช้

ชีวิตอย่างไรและมีใครยังคอยอยู่ข้างเธอหรือไม่มีรายงานระบุว่าเธอพำนักอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งในจังหวัดราชบุรีสงบเรียบง่ายการเปิดเผยไม่มีการเคลื่อนไหวบนสื่อไม่มีภาพถ่ายไม่มีสัญญาณราวกับภูเขาเงียบที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้นไม่ต้องอวดไม่ต้องเปล่าประกาศแต่มหึมมาในแบบของมันเองชีวิตประจำวันของเธอกลายเป็นกิจวัตรอันเรียบง่ายและเงียบงันใส่บาตรในยามเช้าอ่านหนังสือธรรมะปลูกต้นไม้ดูแลสัตว์เลี้ยงและบางครั้งเดินทอดน่องไปในสวนหลัง

บ้านไม่มีราชองครักษ์ไม่มีรถพระที่นั่งไม่มีขบวนสื่อหรือเสียงกล้องมีเพียงเสียงลมเสียงธรรมชาติและเสียงหัวใจที่เรียนรู้จะอยู่กับปัจจุบันหลายคนมองว่านี่คือการสิ้นสุดแต่สำหรับเธอนี่อาจเป็นการเริ่มต้นใหม่การกลับมาเป็นมนุษย์ธรรมดาหลังจากเคยเป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดามานานบางคนอาจรู้สึกเสียดายบางคนอาจเห็นว่าเธอสูญเสียแต่ใครจะไปรู้บางทีสิ่งที่เธอได้มาคืออิสรภาพที่แท้จริงและใช่ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจการเลือกเงียบของเธอแต่นั่นไม่สำคัญอีกต่อไปเพราะ

การใช้ชีวิตเงียบๆไม่ได้แปลว่าอ่อนแอแต่มันคือความเข้มแข็งที่เลือกจะไม่พูดผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่จำเป็นต้องอยู่ท่ามกลางแสงไฟเสมอไปและศรีรัตน์อาจเป็นหนึ่งในนั้นหลังจากการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ในชีวิตคำถามต่อมาที่หลายคนเฝ้าคิดถึงมากที่สุดคือเธอสบายดีหรือไม่ในโลกที่ข่าวลือเดินทางเร็วกว่าความจริงเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพของศรีรัตน์ถูกตีความปรุงแต่งและเล่าซ้ำอย่างไร้จุดจบบางกระแสบกว่าเธอล้มป่วยบางแหล่งอ้างอ้างว่าเธอใช้

ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและเศร้าหมองแต่เมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบสิ่งที่ได้รับการยืนยันนั้นน้อยเหลือเกินข้อมูลเพียงเล็กน้อยที่ปรากฏบ่งบอกว่าเธอยังมีสุขภาพดีในระดับที่น่าพอใจยังคงปฏิบัติกิจวัตรสงบๆรับประทานอาหารที่เรียบง่ายใส่บาตรพูดคุยกับคนใกล้ตัวอย่างเป็นกันเองไม่เคยมีรายงานทางการใดระบุว่าเธอล้มป่วยร้ายแรงแต่ก็ไม่เคยมีคำตอบชัดเจนเช่นกันเพราะเธอมีสิทธิ์ที่จะไม่เปิดเผยในยุคที่ทุกคนสามารถเข้าถึงกันผ่านหน้าจอการเลือกเงียบ

กลายเป็นเรื่องแปลกแต่สำหรับศรีรัตน์ความเงียบอาจเป็นกรอบป้องกันจิตใจจากโลกภายนอกที่วุ่นวายเราไม่อาจเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของเธอแต่เราสามารถเลือกที่จะไม่รุกรานคนเรามีสิทธิ์จะเปลี่ยนเส้นทางชีวิตโดยไม่ต้องอธิบายกับใครทั้งนั้นนี่คือคำเตือนใจจากเรื่องราวของเธอสุขภาพไม่ได้วัดแค่ร่างกายแต่ยังวัดได้จากใจที่สงบและความสามารถในการหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนจากโลกภายนอกในสวนหลังบ้านที่แสงแดดส่องกระทบไม้เก่าเธออาจนั่งอยู่ตรงนั้นจิบช้า

เงียบๆมองไปยังต้นไม้ที่เธอปลูกเองกับมือและปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปอย่างอ่อนโยนไม่ต้องให้ใครเห็นไม่ต้องโพสต์ลงโซเชียลเพราะความสุขที่แท้จริงไม่ต้องการคนปรบมือความสงบไม่ได้หมายถึงไม่มีคลื่นแต่คือการเรียนรู้ที่จะลอยผ่านมันอย่างสง่างามและศรีรัตน์ก็อาจลอยผ่านทุกคลื่นนั้นได้ด้วยหัวใจที่เข้มแข็งอย่างแท้จริงถ้ามีคำถามหนึ่งที่ถูกกระถามามากที่สุดในทุกช่องทางคงหนีไม่พ้นว่าเธอยังได้พบลูกชายหรือไม่เจ้าชายทีปังกรรัศมีโชติคือสายเลือด

หนึ่งเดียวที่เธอให้กำเนิดและเป็นแสงสว่างเดียวที่ไม่เคยดับแต่ดวงใจของเธอแม้ระยะทางจะห่างแม้สถานะจะต่างแต่ความเป็นแม่ไม่เคยลดลงแม้แต่น้อยในแง่ของข้อเท็จจริงราชสำนักไม่เคยเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง2แม่ลูกไม่มีภาพถ่ายไม่มีข่าวการพบกันไม่มีคำยืนยันใดๆอย่างเป็นทางการแต่ก็ไม่มีคำปฏิเสธเช่นกันหลายกระแสลือว่าเจ้าชายเคยส่งจดหมายส่วนตัวถึงมารดาบางคนกล่าวว่าเขายังคงเก็บภาพของเธอไว้ในห้องส่วน

พระองค์แม้ทั้งหมดจะไม่เคยได้รับการยืนยันแต่ผู้คนยังเชื่อว่าความรักไม่เคยถูกกลมแม่ไม่จำเป็นต้องอยู่ตรงหน้าเสมอแต่เธออยู่ในคำอธิษฐานของลูกเสมอในทุกย่างก้าวของเจ้าชายในทุกความสำเร็จและการเติบโตเราไม่รู้ว่าเขาคิดถึงใครในใจแต่เราเชื่อว่าหัวใจของเธอยังคงเต้นตามเสียงของเขาหลายคนถามว่าราชสำนักใจแข็งหรือไม่ทำไมแม่ลูกจึงดูห่างเหินแต่บางครั้งความเมตตาอาจไม่ปรากฏต่อสายตาอาจเป็นเพียงการเฝ้าดูอยู่ห่างๆเพื่อให้เขาเติบโตโดยไร้

แรงกดดันเพราะในความเป็นจริงราชวงศ์อาจต้องเผชิญกับความซับซ้อนมากมายและบางความสัมพันธ์ต้องการเวลาความอดทนและการให้อภัยจากทุกฝ่ายเธออาจไม่อยู่ในภาพถ่ายวันสำคัญแต่เธออาจอยู่ในความทรงจำลึกที่สุดของลูกชายเหมือนดอกไม้ริมทางที่แม้ไม่มีใครหยิบแต่ก็ยังส่งกลิ่นหอมให้ผู้คนที่เดินผ่านความรักที่ไม่ถูกพูดถึงอาจเป็นความรักที่ลึกที่สุดและสายใยระหว่างแม่กับลูกไม่เคยถูกตัดขาดแม้เงื่อนไขของโลกจะพยายามทำเช่นนั้นก็ตามเธอเคยเป็นภาพบนหน้าหนึ่ง

ของหนังสือพิมพ์เคยยืนเคียงข้างกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจเคยเป็นแม่ของเจ้าชายที่ประชาชนรักแต่วันนี้เธอคือหญิงวัยกลางคนหนึ่งที่เดินเท้าเปล่าบนพื้นกรวดหลังบ้านรถน้ำต้นไม้ด้วย2มือและเงยหน้ารับแสงแดดอย่างเงียบงันไม่มีเครื่องเพชรไม่มีฉลองพระองค์ไม่มีงานเลี้ยงไม่มีพิธีการมีเพียงชีวิตที่เธอเลือกแล้วด้วยตนเองชีวิตที่ไม่มีใครจัดวางให้ไม่มีใครบงการและไม่มีใครต้องตัดสินในโลกที่ผู้คนแข่งกันให้เป็นที่รู้จักเธอเลือกที่จะไม่ต้องเป็น

ใครเธอเพียงพอกับการได้เป็นตัวเองผู้คนอาจสงสัยเธอไม่เสียใจเลยหรือเธอไม่รู้สึกผิดหวังหรือเปล่าแต่บางทีคำตอบอาจไม่สำคัญสิ่งสำคัญคือทุกเช้าที่เธอลืมตาเธอยังสามารถหายใจอย่างสงบอยู่กับความคิดของตัวเองและไม่ต้องยิ้มให้กล้องของใครในความเงียบที่ผู้คนมองว่าเป็นจุดจบอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเยียวยเยวาและการกลับมารักตัวเองอย่างไม่ต้องพิสูจน์การเป็นผู้หญิงธรรมดาบางครั้งก็ยิ่งใหญ่กว่าการเป็นเจ้าหญิงเธอเคยเป็นตัวแทนของความฝันและ

วันนี้เธออาจเป็นตัวแทนของความจริงความจริงที่ว่าเราไม่จำเป็นต้องสมบูแบบจึงจะมีคุณค่าในสายตาของตัวเองเรื่องราวของศรีรัตน์ในวันนี้ไม่ใช่ตำนานไม่ใช่เทพนิยายแต่คือชีวิตจริงที่เดินช้าๆบนเส้นทางที่เธอเลือกเองและบางทีนั่นคือบทสรุปที่งดงามที่สุดขอให้เธอมีความสงบมีอิสระและมีแสงแดดที่อ่อนโยนเสมอ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *